เพิ่มพื้นที่จัดเก็บในบ้านเปลี่ยนให้บ้านเป็นระเบียบมากขึ้น

ชั้นวางจัดเก็บใต้เคาน์เตอร์ห้องครัวแล้วก็ไอส์แลนด์ ครัวนับว่าเป็นส่วนใช้สอยของบ้านที่เต็มไปด้วยข้าวของเครื่องใช้จำนวนมาก ทั้งยังวัสดุอุปกรณ์ห้องครัวสำหรับทำครัว ถ้วยจาน แล้วก็วัตถุดิบต่าง ๆ การออกแบบครัวที่ดีจำเป็นจะต้องมาพร้อมพื้นที่จัดเก็บที่เป็นสัดส่วนพอดีและก็พอเพียงต่อการจัดสรรสเปซให้เป็นระเบียบเรียบร้อย

ที่สามารถทำเป็นโดยการเลือกใช้เคาน์เตอร์ห้องครัวหรือไอส์แลนด์ที่มาพร้อมพื้นที่จัดเก็บรอบ ๆ ข้างล่าง บางทีอาจเพิ่มส่วนใช้สอยซึ่งสามารถจัดเก็บข้าวของเครื่องใช้ได้มากขึ้นโดยการตั้งตู้จัดเก็บติดฝาผนัง ก็ช่วยจัดเก็บเครื่องใช้ในครัวให้เป็นระเบียบเรียบร้อยรวมทั้งช่วยออมพื้นที่ใช้สอยไปพร้อม

ห้องนอนที่ครบถ้วนด้วยฟังก์ชั่นจัดเก็บ พื้นที่ใช้สอยด้านในห้องนอนนับเป็นอีกโซนหนึ่งที่เต็มไปด้วยของใช้ส่วนตัวไม่น้อยเลยทีเดียว ด้วยเหตุว่าพื้นที่ในรอบๆนี้

เปรียบเทียบเป็นโลกส่วนตัวที่ใช้ในการพักได้อย่างเป็นสัดส่วนจากพื้นที่ศูนย์กลางข้างในบ้าน แม้มีการวางแบบพื้นที่จัดเก็บในห้องนอนได้อย่างเหมาะควร ก็ช่วยทำให้พื้นที่ใช้สอยที่มีอยู่เรียบร้อยแล้ว

ก็มีพื้นที่สำหรับในการใช้งานที่มากขึ้นกว่าเดิม ที่สามารถเริ่มโดยการจัดสรรสเปซในห้องนอนที่มีอยู่ว่าควรจะมาพร้อมฟังก์ชั่นใช้สอยอะไรบ้าง และก็จัดวางไว้ภายในรอบๆไหนถึงจะพอดีเยอะที่สุด

แม้ปรารถนาดีไซน์ห้องนอนให้มาพร้อมโซนนั่งพักผ่อนพักเล็กๆเสนอแนะให้เลือกใช้โซฟาที่มาพร้อมพื้นที่จัดเก็บใต้ที่นั่ง แล้วก็โต๊ะกึ่งกลางที่มีสเปซในการจัดเก็บเครื่องใช้รอบๆใต้โต๊ะ

 

ในส่วนเตียงก็สามารถเปลี่ยนเป็นพื้นที่จัดเก็บได้ด้วยเหมือนกัน แค่เพียงเลือกเตียงที่พักผ่อนที่มาพร้อมฟังก์ชั่นลิ้นชักจัดเก็บใต้เตียง บางทีอาจเพิ่มชั้นวางติดฝาผนังแนวดิ่งที่มีความสูงจากพื้นถึงเพดานรอบๆปลายเตียง ก็จะสามารถช่วยทำให้พื้นที่ด้านในห้องนอนมีโซนจัดเก็บสิ่งของให้เป็นระเบียบเรียบร้อยอย่างพร้อม

ตู้สำหรับใส่เสื้อผ้าที่จัดเก็บได้สุดกำลัง โซน Walk-in Closet เป็นอีกพื้นที่หนึ่งของบ้านที่เต็มไปด้วยเครื่องใช้มากมาย อีกทั้งเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า หมวก และก็ของใช้ส่วนตัวต่างๆที่หลายชนิด ซึ่งนอกเหนือจากการดีไซน์พื้นที่จัดเก็บให้พอเพียงต่อการใช้แรงงานในรอบๆนี้

ด้วยการวางแบบพื้นที่จัดเก็บในแนวดิ่งแบบเต็มฝาผนัง บางทีอาจใช้เป็นตู้สำหรับเก็บเสื้อผ้าจัดเก็บใบเสร็จรับเงินท์อินที่มีความสูงจากพื้นถึงเพดาน

หรือวางแบบเป็นโซนจัดเก็บจากโครงเหล็กประกอบกันเป็นชั้นวางรวมทั้งราวห้อย การวางแบบพื้นที่ใช้สอยให้สามารถจัดเก็บของใช้ส่วนตัวได้อย่างเป็นหมวดหมู่ยังช่วยปรับพื้นที่ในรอบๆนี้เรียบร้อยและก็ไม่ยุ่งยากต่อการถือใช้งานเยอะขึ้น

เสนอแนะให้ตกแต่งบ้านในมุมแต่งตัวให้มีฟังก์ชั่นจัดเก็บที่นานัปการ ซึ่งมีราวแขนสำหรับเก็บเสื้อผ้า ช่องชั้นวางสำหรับเก็บของใช้ส่วนตัวที่อยากได้แอบซ่อนให้เรียบร้อย

หรือถ้าเป็นชั้นดีไซน์เปิดโล่งเตียนก็สามารถนำกล่องจัดเก็บไซส์ต่างๆมาเพิ่มฟังก์ชั่นการจัดเก็บเพื่อแบ่งข้าวของเครื่องใช้ให้เป็นหมวดหมู่ได้อีกทางหนึ่ง เพียงเท่านี้ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมาวิตกกังวลหรือกลุ้มใจดวงใจเรื่องเครื่องใช้จำนวนไม่น้อยที่จะทำให้บ้านเกลื่อนกลาด แล้วก็ถือใช้งานยากอีกต่อไป

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    ประสิทธิภาพการได้ยิน

วิธีการซักเสื้อผ้า สำหรับมือใหม่หัดซัก

การซักเสื้อผ้าอาจดูเป็นงานที่ซับซ้อนสำหรับมือใหม่ แต่หากเข้าใจขั้นตอนและเทคนิคพื้นฐาน การซักเสื้อผ้าก็จะเป็นเรื่องง่ายและสนุกมากขึ้น ด้านล่างนี้คือคำแนะนำแบบละเอียดที่จะช่วยให้คุณสามารถซักเสื้อผ้าได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ

  1. อ่านป้ายแนะนำการดูแลผ้า

ทุกครั้งก่อนการซัก ควรเริ่มต้นด้วยการอ่านป้ายแนะนำการดูแลผ้าที่ติดอยู่บนเสื้อผ้า ซึ่งจะบอกข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการซัก การใช้น้ำยา และอุณหภูมิของน้ำที่เหมาะสมกับเสื้อผ้าชิ้นนั้นๆ การปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้เสื้อผ้าไม่เสียหายและคงความสวยงามได้ยาวนาน

 

  1. แยกประเภทเสื้อผ้า

ขั้นตอนถัดไปคือการแยกเสื้อผ้าตามประเภทของผ้าและสี โดยทั่วไปจะแยกเป็นสามกลุ่มหลักคือ 

– ผ้าขาว: เสื้อผ้าที่เป็นสีขาวหรือสีอ่อนที่อาจดูดสีจากผ้าสีอื่น

– ผ้าสี: เสื้อผ้าที่มีสีสด เช่น แดง น้ำเงิน เขียว ซึ่งอาจจะตกสีเมื่อซัก

– ผ้าเนื้อหนา: เสื้อผ้าที่มีเนื้อผ้าหนา เช่น ผ้ายีนส์ ผ้าขนสัตว์ ควรแยกซักต่างหากเพื่อป้องกันการเสียดสีและความเสียหาย

 

  1. เลือกน้ำยาซักผ้าและการตั้งค่าเครื่องซักผ้า

เมื่อนำเสื้อผ้าแยกไว้ตามกลุ่มแล้ว ต่อไปคือการเลือกน้ำยาซักผ้าที่เหมาะสม สำหรับผ้าขาว ควรใช้น้ำยาที่มีส่วนผสมของสารฟอกขาวอ่อน ๆ แต่สำหรับผ้าสี ควรใช้น้ำยาซักผ้าสูตรอ่อนโยนที่ไม่ทำให้สีตก

หากใช้เครื่องซักผ้า ให้ตั้งค่าการซักตามประเภทผ้า ผ้าบางชนิดต้องการน้ำเย็น เช่น ผ้าไหม หรือผ้าขนสัตว์ ในขณะที่ผ้าฝ้ายสามารถใช้น้ำอุ่นหรือร้อนได้

 

  1. การซักด้วยมือ

สำหรับเสื้อผ้าบางประเภท เช่น ผ้าที่บอบบางหรือมีดีเทลพิเศษ ควรซักด้วยมือเพื่อป้องกันการเสียหาย ใช้น้ำเย็นและน้ำยาซักผ้าอ่อนโยน ผสมลงในน้ำ แล้วแช่เสื้อผ้าทิ้งไว้สัก 10-15 นาที จากนั้นใช้มือบีบผ้าเบาๆ และล้างน้ำสะอาดหลายครั้งจนกระทั่งน้ำไม่มีฟองน้ำยาเหลือ

  1. การตากผ้า

การตากผ้าก็เป็นขั้นตอนสำคัญที่มีผลต่อสภาพของเสื้อผ้า ควรตากในที่ที่มีลมพัดผ่าน ไม่ควรตากในที่ที่มีแสงแดดแรงโดยตรง เพราะอาจทำให้สีซีดจางได้ ควรพลิกด้านในของเสื้อผ้าออกมาด้านนอกเพื่อป้องกันการซีดของสี

สำหรับ  เครื่องช่วยฟังราคาเท่าไหร่    เสื้อผ้าบางชนิด เช่น ผ้าขนสัตว์ ควรตากในแนวนอนบนตะแกรงหรือพื้นเรียบ เพื่อป้องกันการยืดหรือเสียรูปทรง

 

  1. การรีดผ้า

สุดท้ายคือการรีดผ้า เพื่อให้เสื้อผ้าดูเรียบร้อยและดูใหม่อยู่เสมอ ใช้อุณหภูมิที่เหมาะสมกับประเภทของผ้าและอย่าลืมใช้ผ้ารองรีดสำหรับผ้าที่บอบบาง เช่น ผ้าไหม หรือผ้าโพลีเอสเตอร์ การซักเสื้อผ้าอาจดูเป็นงานที่มีหลายขั้นตอน แต่เมื่อคุ้นเคยและปฏิบัติตามคำแนะนำข้างต้น การซักเสื้อผ้าก็จะเป็นเรื่องง่ายและช่วยให้เสื้อผ้าของคุณอยู่ในสภาพที่ดีไปนาน ๆ

วิธีรับมือกับความเครียด

ความเครียดเป็นปัญหาทางจิตใจและร่างกายที่ทุกคนอาจเผชิญในชีวิตประจำวัน โดยอาจเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น งานที่หนักหน่วง ความขัดแย้งในความสัมพันธ์ ปัญหาการเงิน หรือสุขภาพไม่ดี การรับมือกับความเครียดอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาสุขภาพจิตและร่างกายให้แข็งแรง วิธีการรับมือกับความเครียดสามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้:

  1. การระบุสาเหตุของความเครียด:

การเริ่มต้นที่ดีในการจัดการกับความเครียดคือการระบุสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้คุณรู้สึกเครียด เมื่อคุณรู้ว่าอะไรเป็นต้นเหตุ คุณจะสามารถจัดการและหาทางแก้ไขปัญหานั้นได้ตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อม การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ หรือการพูดคุยกับคนที่คุณไว้วางใจ

  1. การออกกำลังกาย:

การออกกำลังกายเป็นวิธีที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในการลดความเครียด การออกกำลังกายทำให้ร่างกายผลิตสารเอ็นโดรฟิน (endorphins) ซึ่งเป็นสารเคมีในสมองที่ช่วยลดความรู้สึกเจ็บปวดและสร้างความรู้สึกผ่อนคลาย การเดิน วิ่ง ว่ายน้ำ หรือการเล่นโยคะเป็นกิจกรรมที่สามารถช่วยลดความเครียดได้อย่างดี

  1. การฝึกหายใจและการทำสมาธิ:

การฝึกหายใจลึก ๆ และการทำสมาธิสามารถช่วยให้คุณสงบสติอารมณ์และลดความเครียดได้ การหายใจลึก ๆ ช้า ๆ ช่วยให้สมองได้รับออกซิเจนมากขึ้นและลดการเต้นของหัวใจ การทำสมาธิยังช่วยให้จิตใจของคุณปลอดโปร่งและสามารถมองเห็นปัญหาได้ชัดเจนขึ้น

  1. การจัดการเวลา:

การจัดการเวลาอย่างมีประสิทธิภาพช่วยลดความเครียดจากงานที่ต้องทำ การวางแผนงานล่วงหน้าและการตั้งเป้าหมายที่เป็นไปได้ช่วยให้คุณมีความรู้สึกควบคุมสถานการณ์ได้มากขึ้น นอกจากนี้ การแบ่งงานออกเป็นส่วนเล็ก ๆ และทำทีละอย่างยังช่วยลดความเครียดจากความรู้สึกที่ว่ามีงานมากเกินไป

  1. การพักผ่อน:

การพักผ่อนอย่างเพียงพอเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาสุขภาพจิตที่ดี การนอนหลับให้เพียงพอช่วยให้ร่างกายและจิตใจฟื้นตัวจากความเครียด การทำกิจกรรมที่คุณชื่นชอบ เช่น การอ่านหนังสือ ฟังเพลง หรือดูหนัง ยังช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและหลีกหนีจากความกังวลได้ชั่วคราว

  1. การพูดคุยและแบ่งปันความรู้สึก:

การพูดคุยกับเพื่อน ครอบครัว หรือที่ปรึกษาเป็นวิธีที่ดีในการระบายความเครียดและความกังวล การได้รับฟังคำแนะนำหรือเพียงแค่มีคนรับฟังคุณอย่างจริงใจสามารถช่วยให้คุณรู้สึกไม่โดดเดี่ยวและเห็นปัญหาในมุมมองใหม่ ๆ

  1. การหลีกเลี่ยงสารกระตุ้น:

สารกระตุ้นเช่น คาเฟอีน แอลกอฮอล์ หรือยาบางชนิดอาจเพิ่มระดับความเครียดในร่างกาย การลดหรือหลีกเลี่ยงการใช้สารเหล่านี้สามารถช่วยลดความเครียดได้

การจัดการกับความเครียดต้องใช้เวลาและความพยายาม การใช้วิธีการเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณสามารถรับมือกับความเครียดได้  คาสิโนดานัง   อย่างมีประสิทธิภาพและรักษาสุขภาพจิตและร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ

กินไขมันแบบไหนทำให้ร่างกายอ้วนง่าย

การกินไขมันบางชนิดสามารถทำให้ร่างกายสะสมไขมันและอ้วนขึ้นได้ง่ายกว่าไขมันชนิดอื่นๆ การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ  เพิ่มคุณภาพชีวิตและการได้ยินที่ดีขึ้น    และชนิดของไขมันและผลกระทบต่อร่างกายจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการควบคุมน้ำหนักและสุขภาพโดยรวม

ไขมันในอาหารแบ่งออกเป็นหลายประเภท แต่ที่สำคัญที่สุดมีสามประเภท ได้แก่ ไขมันอิ่มตัว (Saturated Fat), ไขมันไม่อิ่มตัว (Unsaturated Fat) และไขมันทรานส์ (Trans Fat)

  1. ไขมันอิ่มตัว (Saturated Fat)

ไขมันอิ่มตัวเป็นไขมันที่มีโครงสร้างเคมีที่แน่นและไม่สามารถเกาะกับโมเลกุลอื่นได้อย่างง่ายดาย พบมากในอาหารที่มาจากสัตว์ เช่น เนื้อแดง, เนย, ชีส, นมที่มีไขมันเต็มส่วน และน้ำมันมะพร้าว เมื่อเราบริโภคไขมันอิ่มตัวมากเกินไป ไขมันนี้สามารถเพิ่มระดับของคอเลสเตอรอล LDL (Low-Density Lipoprotein)

ในเลือดได้ ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ไขมันอิ่มตัวมีแนวโน้มที่จะถูกสะสมในร่างกายได้ง่ายกว่าไขมันชนิดอื่น จึงทำให้เพิ่มน้ำหนักและนำไปสู่การอ้วนได้ง่ายขึ้น

  1. ไขมันไม่อิ่มตัว (Unsaturated Fat)

ไขมันไม่อิ่มตัวแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก ได้แก่ ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (Monounsaturated Fat) และไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (Polyunsaturated Fat) ไขมันชนิดนี้พบมากในอาหารจากพืช เช่น น้ำมันมะกอก, น้ำมันเมล็ดทานตะวัน, ถั่วและเมล็ดพืช การบริโภคไขมันไม่อิ่มตัวมีความสัมพันธ์กับการลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ

เนื่องจากมันสามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล LDL ในเลือด และเพิ่มระดับของคอเลสเตอรอล HDL (High-Density Lipoprotein) ซึ่งเป็นคอเลสเตอรอลที่ดีสำหรับร่างกาย ไขมันไม่อิ่มตัวมักไม่ถูกสะสมในร่างกายได้ง่าย จึงไม่เป็นปัจจัยหลักในการทำให้เกิดความอ้วน

  1. ไขมันทรานส์ (Trans Fat)

ไขมันทรานส์เป็นไขมันที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางเคมีของไขมันไม่อิ่มตัว โดยการเติมไฮโดรเจนเข้าไปในโครงสร้างโมเลกุล ทำให้ไขมันนี้มีความคงตัวและมีอายุการเก็บรักษายาวนานขึ้น ไขมันทรานส์พบมากในอาหารแปรรูป เช่น คุกกี้, เค้ก, มันฝรั่งทอด, ขนมปังแครกเกอร์ และมาการีน ไขมันทรานส์เป็นไขมันที่ไม่ดีต่อสุขภาพมากที่สุด

เนื่องจากมันสามารถเพิ่มระดับคอเลสเตอรอล LDL และลดระดับคอเลสเตอรอล HDL ทำให้มีความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดมากขึ้น อีกทั้งยังทำให้ร่างกายสะสมไขมันได้ง่าย ทำให้เกิดความอ้วนอย่างรวดเร็วเมื่อบริโภคในปริมาณมาก

การบริโภคไขมันมีผลโดยตรงต่อการเพิ่มน้ำหนักและความอ้วน ไขมันทรานส์และไขมันอิ่มตัวเป็นไขมันที่ควรระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากมีแนวโน้มที่จะทำให้ร่างกายสะสมไขมันและอ้วนได้ง่ายกว่าไขมันไม่อิ่มตัว สำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักหรือรักษาสุขภาพ

ควรเลือกบริโภคไขมันไม่อิ่มตัวและหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันทรานส์และไขมันอิ่มตัวในปริมาณมาก การปรับเปลี่ยนการบริโภคอาหารให้มีไขมันชนิดที่ดีต่อสุขภาพจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ และช่วยควบคุมน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โรคมดลูกเย็น โรคนี้ร้ายแรงหรือไม่ เป็นแล้ว ต้องรักษาอย่างไร

 

“โรคมดลูกเย็น” (Cold Uterus Syndrome) เป็นแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์แผนจีนมากกว่าการแพทย์แผนปัจจุบัน คำว่า “มดลูกเย็น” ไม่ได้หมายถึงอุณหภูมิที่มดลูกลดลงจริง ๆ แต่เป็นการอธิบายภาวะที่การไหลเวียนเลือดในมดลูกไม่ดีพอ ทำให้มีผลต่อระบบสืบพันธุ์และการตั้งครรภ์ โดยภาวะนี้สามารถส่งผลต่อการมีบุตรยาก ประจำเดือนผิดปกติ และอาการปวดท้องประจำเดือนที่รุนแรง

ตามความเชื่อของการแพทย์แผนจีน โรคมดลูกเย็นมักเกี่ยวข้องกับภาวะที่ “หยาง” ในร่างกายไม่สมดุล ซึ่งอาจเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น การบริโภคอาหารเย็นเกินไป ความเครียด หรือการใช้ชีวิตที่ไม่มีความสมดุล

อาการของภาวะนี้รวมถึงการมีประจำเดือนผิดปกติหรือมีประจำเดือนน้อย, ปวดท้องประจำเดือนที่รุนแรงโดยเฉพาะในช่วงที่อากาศเย็น, ขาดสมรรถภาพในการเจริญพันธุ์ และรู้สึกเย็นภายในร่างกายหรือส่วนท้อง

แม้ว่าการแพทย์แผนปัจจุบันจะไม่ยอมรับ “โรคมดลูกเย็น” เป็นภาวะทางการแพทย์ แต่ความรู้จากการแพทย์แผนจีนมักนำมาใช้ในการรักษาปัญหาที่เกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์และการมีบุตรยากได้ดี การขาดการไหลเวียนเลือดที่ดีอาจส่งผลให้มีปัญหาในการตั้งครรภ์ รวมทั้งอาจส่งผลต่อความเจ็บปวดที่เกี่ยวข้องกับการมีประจำเดือนและการไม่สม่ำเสมอของประจำเดือน

 

การรักษาโรคมดลูกเย็นมักเน้นที่การปรับสมดุลของหยินและหยางในร่างกาย โดยการใช้วิธีการบำบัดจากการแพทย์แผนจีน เช่น การใช้สมุนไพร การฝังเข็ม และการนวดเส้นลมปราณ การใช้สมุนไพรเป็นส่วนสำคัญของการรักษา โดยสมุนไพรเช่น ขิง ตังกุย (Angelica sinensis) และกระชายดำ (Black Ginger) ถูกนำมาใช้ในการเสริมสร้างความอบอุ่นและการไหลเวียนเลือดในร่างกาย

การฝังเข็มเป็นวิธีการรักษาที่ได้รับความนิยมเช่นกัน ซึ่งมุ่งเน้นที่การกระตุ้นจุดฝังเข็มที่เกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์เพื่อปรับสมดุลของพลังงานในร่างกาย วิธีนี้สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือนและส่งเสริมการไหลเวียนเลือดที่ดีขึ้นในมดลูก

นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกินและการดำเนินชีวิตก็เป็นสิ่งสำคัญ การหลีกเลี่ยงอาหารเย็นและการออกกำลังกายเป็นประจำ เช่น การทำโยคะ การเดิน หรือการออกกำลังกายที่เบา ๆ สามารถช่วยในการรักษาภาวะนี้ได้ นอกจากนี้การลดความเครียดด้วยการทำสมาธิหรือการผ่อนคลายทางจิตใจสามารถส่งผลดีต่อการรักษาภาวะนี้

หากคุณรู้สึกว่ามีอาการของโรคมดลูกเย็น ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แผนจีนหรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเริ่มการรักษาด้วยตัวเอง การรับการวินิจฉัยและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญสามารถช่วยให้คุณเข้าใจภาวะและวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ

แม้ว่าภาวะมดลูกเย็นจะไม่ถูกยอมรับในทางการแพทย์แผนปัจจุบัน แต่การรักษาตามแนวทางการแพทย์แผนจีนสามารถช่วยปรับสมดุลในร่างกายและเพิ่มโอกาสในการฟื้นฟูสุขภาพและการสืบพันธุ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    ตัวช่วยสำคัญสำหรับผู้ที่มีปัญหาหูตึง

รู้หรือไม่การนอนหลับช่วยให้เราแก่ช้าลงได้ 

คุณรู้หรือเปล่าว่าขณะที่เรานอนหลับนั้นร่างกายเราไม่ได้หลับสนิทไปเลยแต่ยังคงมีการทำงานอยู่ซึ่งร่างกายของเรานั้นยังมีการผลิตฮอร์โมนต่างๆไม่ว่าจะเป็นเมลาโทนินหรือแม้แต่โกรทฮอร์โมนซึ่งฮอร์โมนต่างๆเหล่านี้มีส่วนสำคัญเกี่ยวกับการชะลอวัยของเราได้

เนื่องจากว่าไม่ว่าจะเป็นโกรทฮอร์โมนหรือแม้แต่สารเมลาโทนินนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยให้เซลล์ผิวหนังของเรานั้นสามารถต่อต้านสารอนุมูลอิสระและทำให้ผิวของเราไม่มีริ้วรอยและเห*่ยวย่นได้ยากซึ่งไม่ว่าจะเป็นโกรทฮอร์โมนหรือว่าเมลาโทนินนั้นจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อร่างกายมีการผลิตในช่วงที่เรากำลังนอนหลับและเป็นการนอนหลับแบบสนิทในห้องที่มืดสนิทนั่นเอง 

นอกจากนี้ถ้าหากว่าเรานอนตั้งแต่ช่วงเวลา 22:00 น เป็นต้นไปและมีการตื่นเช้าในช่วง 6 โมงเช้ามันจะทำให้เรานั้นรู้สึกสดชื่นไปตลอดทั้งวัน

นั่นก็เพราะว่าช่วงที่เรานอนหลับนั้นร่างกายยังมีการผลิตสารเซโรโตนินซึ่งสารชนิดนี้จะเป็นสารที่กระตุ้นทำให้เราเกิดความสุขได้เมื่อใดก็ตามที่เรานอนดึกหรือว่าเรานอนน้อยนั้นบอกได้เลยว่าเราจะรู้สึกห่อเห*่ยวเราจะรู้สึกเบื่อหน่ายและรู้สึกอ่อนเพลียคล้ายกับคนเป็นโรคซึมเศร้าเลยทีเดียวและ

นอกจากนี้หากว่าเรานอนน้อยไม่ครบตามที่ร่างกายต้องการซึ่งก็คือ 6-8 ชั่วโมงมันจะทำให้ร่างกายของเรานั้นผลิตสารที่มีบทบาทสำคัญในการควบคุมความต้องการกินอาหารซึ่งก็คือฮอร์โมนเลปติน

โดย  hoiana casino   จะผลิตได้น้อยลงอีกด้วยดังนั้นคุณจะเห็นได้ว่าในช่วงที่เรานอนหลับนั้นร่างกายได้มีการผลิตสารต่างๆมากมายที่จะช่วยให้เรานั้นมีสุขภาพร่างกายที่ดีและยังสร้างภูมิคุ้มกันให้เราได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่ให้เรานั้นมีความอยากอาหารมากจนเกินไปและยังช่วยยับยั้งการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร  

ในช่วงที่เรากำลังนอนหลับนั้นร่างกายของเรายังคงทำงานอย่างหนักซึ่งการทำงานของ

ร่างกายนั้นมีความซับซ้อนเป็นอย่างมากและทำทุกสัดส่วนถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้ขยับเขยื้อนร่างกายตอนที่เรานอนหลับแต่ไม่ว่าจะเป็นสมองหรือการควบคุมการทำงานต่างๆในร่างกายยังคงเกิดขึ้นอย่างเช่นในเรื่องของหัวใจนั้นก็จะมีการผลิตฮอร์โมนขึ้นมา

เพื่อควบคุมเกี่ยวกับเรื่องของความดันโลหิตรวมถึงยังมีการผลิตสารในสมองที่จะทำให้ตื่นขึ้นมาแล้วสมองรู้สึกปลอดโปร่งนอกจากนี้ยังควบคุมการทำงานของลำไส้ตับและไตไม่ให้เกิดอาการท้องผูก

จะเห็นได้ว่าคนที่นอนน้อยหรือนอนไม่ค่อยหลับนั้นมักจะมีปัญหาเรื่องของสุขภาพลำไส้ตับและไตนอกจากนี้ยังมีใบหน้าที่หม่นหมองไม่สดใสไม่สดชื่นซึ่งสิ่งต่างๆที่กล่าวมาข้างต้นนั้นก็เกิดขึ้นมาจากพิษของการนอนน้อยหรือการนอนดึกนั่นเอง

ดังนั้นถ้าหากว่าเราไม่อยากแก่เร็วต้องการมีสุขภาพที่ดีการนอนเร็วตื่นเช้าจึงเป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างมากไม่ควรนอนเร็วเกินไปแล้วก็ไม่ควรที่จะนอนช้ามากจนเกินไปเพราะมันมีผลต่อการความแก่ของเราได้นั่นเอง

เทรนด์ความงามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของปี 2020

ในปีที่พวกเราหลายคนใช้เวลาอยู่ในบ้านหรือซ่อนอยู่หลังหน้ากาก วิธีคิดเกี่ยวกับความงามได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างลึกซึ้งยิ่งกว่าครั้งใดๆ ในความทรงจำที่มีชีวิต การระบาดใหญ่ทำให้เกิดความท้าทายใหม่ๆ มากมายที่คาดไม่ถึงสำหรับผู้ใส่ใจในภาพลักษณ์ ตั้งแต่ร้านทำผมที่ถูกปิดไปจนถึงการระบาดของ “หน้ากาก”

แต่ยังทำให้เกิดโซลูชันใหม่ๆ ที่ชาญฉลาด ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวแบบ DIY หรือวิดีโอสอนแต่งหน้าใน YouTube ในช่วงล็อกดาวน์ และใครจะคิดว่าเจลล้างมือจะกลายเป็นสิ่งสำคัญแห่งปี

  • ความยากลำบากที่เกิดขึ้นทั่วโลกได้คำนึงถึงความสำคัญหรือไม่เกี่ยวกับการกังวลเกี่ยวกับรูปลักษณ์ของเรา
  • (แม้ว่ายอดขายลิปสติกจะลดลงและการค้นหาการทำศัลยกรรมเสริมความงามเพิ่มขึ้น แต่ก็อาจขึ้นอยู่กับเมตริกที่คุณกำลังดูอยู่)
  • แต่ปี 2020 ยังได้ย้ำเตือนเราว่าจริงๆ แล้วความงามเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร: สนุกสนาน รู้สึกดีขึ้นกับตัวเอง และต้องขอบคุณโซเชียลมีเดียที่เชื่อมโยงถึงกันในกระบวนการนี้

ตั้งแต่ทรงผมสั้นไปจนถึงการแต่งหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ นี่คือเทรนด์ความงามที่โดดเด่นที่สุดของ CNN Style ในปีนี้ ในขณะที่ร้านตัดผม ร้านทำผม ร้านทำเล็บ และสถานเสริมความงามปิดตัวลงเนื่องจากการแพร่ระบาด พฤติกรรมการดูแลตัวเองของเราไม่เพียงแต่ผ่อนคลายเท่านั้น แต่ยังฉลาดมากขึ้นอีกด้วย

เราเริ่มต้นการทดลองกับสูตรมาส์กหน้า แว็กซ์ที่บ้าน ทรงผมแบบ DIY และการถักเปียโดยนำเอาหนังสือการรักษาตามธรรมชาติของปู่ย่าตายายของเรา

หรือที่น่าจะเป็นไปได้มากกว่านั้นคือบทแนะนำความงามใน YouTube หนึ่งในเทรนด์ความงามออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดของโรคระบาด “เล็บกักกัน” มีคนโพสต์ความพยายามสร้างสรรค์ในการทำเล็บ ตั้งแต่การทำเล็บสีรุ้ง (หรือที่เรียกว่าเล็บ Skittles)

ไปจนถึงการไล่ระดับสีพาสเทลด้วยปลายอัลมอนด์ที่มีรูปทรง การปิดเมืองยังเป็นการประกาศการกลับมาของทรงผมแบบ Buzzcut (ดูด้านบน) โดยผู้ชาย ผู้หญิง และคนดังต่างเอื้อมมือให้ปัตตาเลี่ยนโกนผม

ไม่จำเป็นต้องพูดว่าความพยายามมากมายเหล่านี้ (และบางครั้งก็ผลลัพธ์ที่แย่) ได้รับการบันทึกไว้ใน Twitter และ Instagram TikTok

ยังกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับผลิตภัณฑ์ความงามที่กำลังมาแรง ล้อเลียน บทช่วยสอน และเคล็ดลับต่างๆ ที่นั่น เราได้เห็นการกำเนิดของชาเลนจ์ #SockCurls ซึ่งเห็นผู้ใช้ทำลอนผมจากถุงเท้า นอกจากนี้ยังมี #Soapbrows มากมาย

ซึ่งเป็นแฮ็กแบบไวรัลที่ TikTokers จัดทรงคิ้วโดยใช้แปรงสปูลลีและสบู่ก้อนธรรมดา แต่ด้วยสถานประกอบการที่กลับมาเปิดใหม่ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก พฤติกรรม DIY ใหม่ ๆ ของเราจะยังคงอยู่หรือไม่

ดวงตาก็มี เมื่อหน้ากากเข้าสู่กระแสหลัก (ในสถานที่ส่วนใหญ่) วิธีแต่งหน้าที่เราใช้จึงเปลี่ยนไปอย่างมาก แนวโน้มสำคัญประการหนึ่ง?

ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น เช่น อายแชโดว์ ดินสอเขียนคิ้ว และมาสคาร่า ในการเรียนรู้วิธียิ้มด้วยดวงตาหรือ “ยิ้มแย้ม” เราหันไปใช้พาเลทท์สีจัดจ้าน อายแชโดว์สีม่วงสโมคกี้ กรีดอายไลเนอร์แบบลอยตัว คิ้วที่โดดเด่น ขนตาปลอม และไฮไลท์เตอร์ที่อบอุ่นที่สุดเพื่อแสดงออกถึงความเป็นตัวเราอย่างสร้างสรรค์ (หรือดูหรูหราแม้ในขณะนั้น) ไม่มีที่ไหนเลยที่จะไป)

ยอดขายเครื่องสำอางสำหรับดวงตาเพิ่มสูงขึ้นในช่วงที่มีการระบาดใหญ่ ในสหราชอาณาจักรเพียงแห่งเดียว ส่วนแบ่งของอายแชโดว์ในตลาดความงาม “ศักดิ์ศรี” เพิ่มขึ้นจาก 22% เป็น 25% ในช่วงล็อคดาวน์ ตามรายงานของนักวิเคราะห์การวิจัย NPD Group ในประเทศจีน ซึ่งเป็นจุดที่ไวรัสโจมตีครั้งแรกในช่วงปลายปี 2019

อาลีบาบา ยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซรายงานว่า คำว่า “การแต่งหน้าแบบสวมหน้ากาก” เริ่มได้รับความนิยมบนโซเชียลมีเดียในต้นปี 2020 หากไม่มีอะไรอย่างอื่น การเรียนรู้วิธีทำให้ขนตางอนเด้งช่วยให้เรามีสมาธิที่จำเป็นมาก

 

ได้รับการสนับสนุนโดย    ทัวร์คาสิโนเวียดนาม

จัดบ้านเก่าเสื่อมโทรมให้กลับมาสดใสโดยไม่ต้องรีโนเวท

จัดบ้านเก่าเสื่อมโทรมให้กลับมาสดใสโดยไม่ต้องรีโนเวท ด้วยมูลเหตุกลุ่มนี้ ก็เลยทำให้การรีโนเวทตกแต่งบ้านใหม่ให้กลับมางดงามและก็น่าอยู่แปลงเป็นเรื่องที่ยากแสนยากสำหรับคนอีกจำนวนไม่น้อย เนื่องจากว่าจำต้องใช้งบประมาณออกจะมากมาย บวกกับคนภายในเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีเวลาว่างสำหรับในการซ่อมบำรุงบ้านใหม่

แต่ว่าปัญหาทั้งหมดทั้งปวงนี้จะหมดไปด้วยความคิดดีๆของการเปลี่ยนบ้านเก่าที่ย่ำแย่ให้กลับมาน่าอยู่แบบไม่ต้องรีโนเวทที่พวกเราเอามาฝากกัน

ตัดแต่งต้นไม้ในสวน มุมสวนของบ้านที่เคยรกและไม่สวยสดงดงาม มีส่วนช่วยทำให้บ้านข้างหลังเก่ามีบรรยากาศย่ำแย่ เศร้าหมอง

แล้วก็ขาดชีวิตชีวา เสนอแนะให้ตกแต่งสวนใหม่โดยการตัดแต่งก้านไม้ใบต้นหญ้าให้สมควร ทดลองตรวจมองว่าข้างในสวนมีต้นไม้ประเภทไหนที่อยู่ในภาวะเสียจนกระทั่งไม่สามารถที่จะกลับมาเจริญวัยได้อย่างงดงาม ถ้าหากเจอต้นไม้พวกนั้นควรจะขุดรากถอนโคนออกมาจากมุมสวน

แล้วนำต้นไม้จำพวกใหม่ที่มีภาวะบริบูรณ์กว่ามาปลูกแทนที่ หรือบางทีอาจนำของตกแต่งสวนจำพวกตุ๊กตาปูนปั้นหรือน้ำพุตกแต่งสวนมาจัดวางแทนที่ต้นไม้เดิม ก็สามารถสร้างบรรยากาศข้างในสวนให้มองผิดตารวมทั้งมองสวยสดงดงามเยอะขึ้น

จัดเก็บบ้านให้เรียบร้อย เพิ่มเติมชีวิตชีวันให้มุมบ้าน เครื่องใช้ที่ไม่เข้าที่เข้าทางมีส่วนทำให้บรรยากาศในบ้านไม่น่าอยู่ โดยยิ่งไปกว่านั้นบ้านข้างหลังเก่าที่นับวันจะเต็มไปด้วยของใช้ที่อยู่ภายในบ้านมากเพิ่มขึ้นจำเป็นที่จะต้องมีการจัดระบบบ้านใหม่

โดยการสำรวจของใช้ที่อยู่ภายในบ้านว่ามีชิ้นใดที่อยู่ในภาวะดี หรือถ้าหากมีทรุดโทรมและไม่ต้องต่อการใช้แรงงานและจากนั้นก็เสนอแนะให้เก็บทิ้งออกมาจากพื้นที่ด้านในภาย

เมื่อเหลือแค่เครื่องใช้เท่าที่มีความจำเป็นรวมทั้งเพียงแต่ต่อการใช้สอยในบ้านแล้ว บางทีอาจทดลองนำเครื่องเรือนชิ้นเก่าและก็ข้าวของเครื่องใช้เดิมที่มีอยู่มาจัดวางตกแต่งบ้านใหม่

โดยการเปลี่ยนแปลงย้ายมุมเพื่อสร้างบรรยากาศที่ผิดแผกแตกต่าง บางทีอาจเสริมความมีชีวิตชีวาด้วยการเติมเต็มความยุติธรรมชาติจากแจกันดอกไม้ เพียงเท่านี้ก็สามารถเปลี่ยนบรรยากาศด้านในภายให้กลับมาสวย น่าอยู่ แล้วก็เบิกบานใจมากยิ่งกว่าเดิม

 

สนับสนุนโดย    เวียดนามมีคาสิโนไหม

อีกหนึ่งทางเลือกทำบ้าน ด้วยบ้านสำเร็จรูป

บ้านสำเร็จรูป ช่วยลดงบประมาณต่าง ๆ ในการก่อสร้างลงได้มาก เช่น พวกค่าวัสดุ ค่าจ้างผู้รับเหมาก่อสร้าง ตอบสนองในสิ่งที่ต้องการในแต่ละด้านตามที่กล่าวมาได้อย่างมีคุณภาพ บ้านประเภทนี้มีอยู่หลายแบบอย่างรวมทั้งแตกต่าง ซึ่งพบว่ามี 3 แบบสำคัญ ๆ ที่แยกออกตามระบบของการประกอบ อาทิเช่น

1.ระบบคอนกรีตสำเร็จรูป หรือเรียกอีกอย่างว่าบ้าน Precast Concrete System เป็นการนำองค์ประกอบคอนกรีตสำเร็จรูปแต่ละชิ้น อย่างเช่น พื้น ฝาผนัง เสา มาต่อเข้ารวมกันเป็นบ้าน ในเรื่องของหน้างาน โดยข้างในฝาผนังคอนกรีตสำเร็จรูปจะมีระบบระเบียบด้านการเดินสายไฟเฉพาะรวมทั้งระบบท่อจัดตั้งมาในตัว การหลอมคอนกรีตสำเร็จรูปถูกแบ่งได้เป็น 2 แบบดังต่อไปนี้

– หล่อเรียบร้อยแล้วมาจากโรงงาน (Plant Cast Units) และอีกแบบ คือ นำมาหล่อในพื้นที่เขตก่อสร้าง (Site Cast Units)

 

2.ระบบน็อคดาวน์ หรือบ้านน็อคดาวน์ที่เรารู้จักพบเห็นกันมานาน เป็นการนำเอาส่วนประกอบต่าง ๆ ของบ้าน ไปรวมเข้ากันพร้อมติดตั้งในพื้นที่หน้างาน นิยมใช้ส่วนประกอบเป็นแบบ เหล็ก ไม้ แล้วก็คอนกรีต สามารถสร้างได้ทั้งยังบ้านไซส์เล็กและก็ไซส์ใหญ่ แม้กระนั้นพวกเราจะพบเจอได้มากที่สุดเป็นการเอาตู้คอนเทรนเนอร์มาประยุกต์เปลี่ยนแปลงให้เป็นบ้านแบบน็อคดาวน์

บ้านประเภทนี้มีต้นทุนที่ต่ำกว่า บ้านสำเร็จรูป จำพวกอื่น ๆ มากมาย เนื่องด้วยจัดตั้งด้วยระบบขันน็อต เพื่อง่ายต่อกรรมวิธีประกอบหรือถอดแยกในคราวหลัง นอกเหนือจากนั้นยังสามารถจัดตั้งแบบถาวรได้ด้วยแนวทางเชื่อม

 

3.ระบบโมดูลาร์ อาจจะยังไม่คุ้นหูคุ้นตาสักเท่าไหร่ เป็นระบบการก่อสร้าง บ้านสำเร็จรูป ที่ปรับปรุงมาจากระบบทั้งยัง 2 ข้างบนที่กล่าวมา โดยนิยมใช้เพื่อสำหรับในการก่อสร้างบ้านระดับไฮคลาส มีการสร้างส่วนประกอบต่าง ๆ ด้านในโรงงาน ด้วยการควบคุมคุณภาพสำหรับการผลิตระดับสูง ใช้องค์ประกอบเป็นเหล็ก อุปกรณ์สำหรับทำองค์ประกอบแต่ละชิ้น จะเป็นสิ่งของมาตรฐานเดียวกันกับการก่อสร้างทั่ว ๆ ไป

ถ้าเกิดเป็นบ้านไซส์ใหญ่สามารถแบ่งย่อย Module ออกเป็นแต่ละส่วนได้ แล้วก็นำไปจัดตั้งที่หน้างานด้วยระบบน็อคดาวน์

 

ทั้งนี้บ้านสำเร็จรูปอาจจะสามารถเพิ่มพื้นที่ความเป็นส่วนตัวได้ด้วย ฉากกันห้อง เมื่อเลือกที่จะใช้แผงกันห้องสำหรับในการแบ่งห้องแล้วละก็ มันนับว่าเป็นตัวเลือกที่นิยมใช้กันอย่างล้นหลามมายาวนาน ไม่ว่าจะในห้องนอน หรือทำพื้นที่แปลงชุดเพื่อออมพื้นที่ ทั้งเพิ่มเสน่ห์แบบวินเทจให้กับห้องรับแขกแล้วก็ห้องอื่น ๆ ของคุณอีกด้วย เพื่อความไม่มีที่จัดตั้ง ควรจะใช้แผงกันแบบตั้งที่มีลวดลายหรูหราเป็นเอกลักษณ์

แม้คุณได้นำไอเดียกลุ่มนี้ไปใช้สำหรับการแบ่งพื้นที่ของข้างในบ้าน คุณจะรู้สึกพึงใจไปกับห้องรับแขกและก็พื้นที่ทานอาหาร ที่คุณแบ่งด้วยตัวคุณเองอย่างห้องนอน แล้วจะรู้สึกว่าบ้านเหล่านี้ดูดีขึ้นมามาก ๆ เลยทีเดียว

 

สนับสนุนโดย    hoiana เวียดนาม

โรค RSV หรือเชื้อไวรัส Respiratory Syncytial Virus

 โรค RSV หมายถึง Respiratory Syncytial Virus ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่สร้างอาการทางเดินหายใจในเด็กและผู้ใหญ่ โรคนี้มักพบได้ในเด็กที่อายุต่ำกว่า 2 ปีโดยเฉพาะในเด็กที่อายุต่ำกว่า 6 เดือน โรค RSV สามารถทำให้เกิดอาการเจ็บคอ ไอ น้ำมูก เสียงหาย หรือปอดอักเสบได้ ในบางกรณีรุนแรง โรคนี้อาจทำให้เกิดปัญหาหายใจรุนแรงและต้องรักษาในโรงพยาบาลได้

การป้องกันโรค RSV สำคัญอย่างยิ่งในเด็กที่มีความเสี่ยงสูง เช่น เด็กแรกเกิดหรือมีปัญหาทางสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับหายใจ หรือเด็กที่เกิดในช่วงฤดูหนาว

การป้องกันที่สำคัญที่สุดคือการล้างมือบ่อยๆ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับคนที่ป่วยและหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีคนเยอะๆในช่วงเวลาที่เด็กมีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อไวรัสนี้ เช่น โรงเรียนหรือสถานที่คนเยอะๆ

 

การป้องกันโรค RSV สำคัญอย่างยิ่งในเด็กที่มีความเสี่ยงสูง โดยมีวิธีการป้องกันหลายรูปแบบดังนี้

1.ล้างมืออย่างสม่ำเสมอ: ล้างมือให้สะอาดโดยใช้สบู่และน้ำตลอดเวลา โดยเฉพาะหลังจากการสัมผัสสิ่งของที่มีโอกาสถูกปนเปื้อนไวรัส เช่น เด็กที่ป่วย หรืออุปกรณ์เล่นของเด็ก

2.หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับคนป่วย: หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับคนที่เป็นโรค RSV หรือโรคทางเดินหายใจอื่นๆ โดยเฉพาะในเด็กที่มีความเสี่ยงสูง หากมีการเยี่ยมชมเด็กที่ป่วยจาก RSV ควรสวมหน้ากากอนามัยและรักษาความระมัดระวังในการสัมผัส

3.การควบคุมสิ่งแวดล้อม: ควบคุมสิ่งแวดล้อมให้สะอาดโดยทำความสะอาดบ้านและสถานที่ที่มีเด็กอาศัยอยู่ โดยเฉพาะพื้นที่ที่สัมผัสบ่อยๆ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ เล่นของ เป็นต้น

4.การวัคซีน: หากมีวัคซีนป้องกัน RSV ที่มีอยู่ ควรพิจารณาให้เด็กได้รับวัคซีนตามที่แพทย์แนะนำ แต่ในปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกัน RSV ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย

5.การเลี้ยงดูเด็ก: รักษาความสะอาดของเด็ก ส่วนตัวและสิ่งของที่ใช้งานร่วมกับเด็ก และให้เด็กหมั่นได้รับอาหารที่เหมาะสมและพักผ่อนที่เพียงพอ

6.การป้องกันฤดูหนาว: ในฤดูหนาวหรือในช่วงที่มีการระบาดของโรค RSV มีความสำคัญที่จะหลีกเลี่ยงการนำเด็กไปสถานที่ที่มีคนเยอะๆ หรือการจัดกิจกรรมในที่แออัด และให้เด็กสวมเสื้อผ้าที่เหมาะสมเมื่ออากาศเย็นลง

นอกจากข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาที่ได้ระบุไว้ข้างต้นแล้ว มีสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับโรค Respiratory Syncytial Virus (RSV) อีกหลายประการดังนี้

1.กลไกการติดเชื้อ: RSV มักแพร่กระจายผ่านทางการสัมผัสตรงโดยการสัมผัสกับละอองที่มีเชื้อไวรัสจากการไอ จาม หรือการสัมผัสกับพื้นผิวที่ปนเปื้อนไวรัส โดยเด็กและผู้สูงอายุมักเป็นกลุ่มเสี่ยงที่สุดในการติดเชื้อ RSV

2.การแพร่ระบาด: โรค RSV มักแพร่ระบาดในฤดูหนาวและฤดูฝน โดยมักมีการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วยในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงกันยายนในภูมิภาคร้อน

3.อาการ: อาการของโรค RSV ทั่วไปมีความหลากหลายตั้งแต่อาการเด่นชัดของหายใจเจ็บคอ ไอ น้ำมูก เป็นต้น ในกรณีที่รุนแรงกว่าอาจมีไข้สูง ไอรุนแรง หายใจเร็วและลึก หรือมีอาการหายใจเสียและต้องรับการรักษาในโรงพยาบาล

4.ภาวะแทรกซ้อน: โรค RSV อาจเป็นสาเหตุของภาวะแทรกซ้อนทางระบบทางเดินหายใจเช่น ปอดอักเสบ หรือทางเดินหายใจส่วนล่างที่มีความรุนแรง

5.การป้องกัน: การล้างมืออย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับคนที่ป่วย หรือใช้หน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ใกล้คนที่ป่วย และรักษาความสะอาดของสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถช่วยลดโอกาสในการติดเชื้อ RSV ได้

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    Hoiana