โรคมดลูกเย็น โรคนี้ร้ายแรงหรือไม่ เป็นแล้ว ต้องรักษาอย่างไร

 

“โรคมดลูกเย็น” (Cold Uterus Syndrome) เป็นแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์แผนจีนมากกว่าการแพทย์แผนปัจจุบัน คำว่า “มดลูกเย็น” ไม่ได้หมายถึงอุณหภูมิที่มดลูกลดลงจริง ๆ แต่เป็นการอธิบายภาวะที่การไหลเวียนเลือดในมดลูกไม่ดีพอ ทำให้มีผลต่อระบบสืบพันธุ์และการตั้งครรภ์ โดยภาวะนี้สามารถส่งผลต่อการมีบุตรยาก ประจำเดือนผิดปกติ และอาการปวดท้องประจำเดือนที่รุนแรง

ตามความเชื่อของการแพทย์แผนจีน โรคมดลูกเย็นมักเกี่ยวข้องกับภาวะที่ “หยาง” ในร่างกายไม่สมดุล ซึ่งอาจเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น การบริโภคอาหารเย็นเกินไป ความเครียด หรือการใช้ชีวิตที่ไม่มีความสมดุล

อาการของภาวะนี้รวมถึงการมีประจำเดือนผิดปกติหรือมีประจำเดือนน้อย, ปวดท้องประจำเดือนที่รุนแรงโดยเฉพาะในช่วงที่อากาศเย็น, ขาดสมรรถภาพในการเจริญพันธุ์ และรู้สึกเย็นภายในร่างกายหรือส่วนท้อง

แม้ว่าการแพทย์แผนปัจจุบันจะไม่ยอมรับ “โรคมดลูกเย็น” เป็นภาวะทางการแพทย์ แต่ความรู้จากการแพทย์แผนจีนมักนำมาใช้ในการรักษาปัญหาที่เกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์และการมีบุตรยากได้ดี การขาดการไหลเวียนเลือดที่ดีอาจส่งผลให้มีปัญหาในการตั้งครรภ์ รวมทั้งอาจส่งผลต่อความเจ็บปวดที่เกี่ยวข้องกับการมีประจำเดือนและการไม่สม่ำเสมอของประจำเดือน

 

การรักษาโรคมดลูกเย็นมักเน้นที่การปรับสมดุลของหยินและหยางในร่างกาย โดยการใช้วิธีการบำบัดจากการแพทย์แผนจีน เช่น การใช้สมุนไพร การฝังเข็ม และการนวดเส้นลมปราณ การใช้สมุนไพรเป็นส่วนสำคัญของการรักษา โดยสมุนไพรเช่น ขิง ตังกุย (Angelica sinensis) และกระชายดำ (Black Ginger) ถูกนำมาใช้ในการเสริมสร้างความอบอุ่นและการไหลเวียนเลือดในร่างกาย

การฝังเข็มเป็นวิธีการรักษาที่ได้รับความนิยมเช่นกัน ซึ่งมุ่งเน้นที่การกระตุ้นจุดฝังเข็มที่เกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์เพื่อปรับสมดุลของพลังงานในร่างกาย วิธีนี้สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือนและส่งเสริมการไหลเวียนเลือดที่ดีขึ้นในมดลูก

นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกินและการดำเนินชีวิตก็เป็นสิ่งสำคัญ การหลีกเลี่ยงอาหารเย็นและการออกกำลังกายเป็นประจำ เช่น การทำโยคะ การเดิน หรือการออกกำลังกายที่เบา ๆ สามารถช่วยในการรักษาภาวะนี้ได้ นอกจากนี้การลดความเครียดด้วยการทำสมาธิหรือการผ่อนคลายทางจิตใจสามารถส่งผลดีต่อการรักษาภาวะนี้

หากคุณรู้สึกว่ามีอาการของโรคมดลูกเย็น ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แผนจีนหรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเริ่มการรักษาด้วยตัวเอง การรับการวินิจฉัยและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญสามารถช่วยให้คุณเข้าใจภาวะและวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ

แม้ว่าภาวะมดลูกเย็นจะไม่ถูกยอมรับในทางการแพทย์แผนปัจจุบัน แต่การรักษาตามแนวทางการแพทย์แผนจีนสามารถช่วยปรับสมดุลในร่างกายและเพิ่มโอกาสในการฟื้นฟูสุขภาพและการสืบพันธุ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    ตัวช่วยสำคัญสำหรับผู้ที่มีปัญหาหูตึง

รู้หรือไม่การนอนหลับช่วยให้เราแก่ช้าลงได้ 

คุณรู้หรือเปล่าว่าขณะที่เรานอนหลับนั้นร่างกายเราไม่ได้หลับสนิทไปเลยแต่ยังคงมีการทำงานอยู่ซึ่งร่างกายของเรานั้นยังมีการผลิตฮอร์โมนต่างๆไม่ว่าจะเป็นเมลาโทนินหรือแม้แต่โกรทฮอร์โมนซึ่งฮอร์โมนต่างๆเหล่านี้มีส่วนสำคัญเกี่ยวกับการชะลอวัยของเราได้

เนื่องจากว่าไม่ว่าจะเป็นโกรทฮอร์โมนหรือแม้แต่สารเมลาโทนินนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยให้เซลล์ผิวหนังของเรานั้นสามารถต่อต้านสารอนุมูลอิสระและทำให้ผิวของเราไม่มีริ้วรอยและเห*่ยวย่นได้ยากซึ่งไม่ว่าจะเป็นโกรทฮอร์โมนหรือว่าเมลาโทนินนั้นจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อร่างกายมีการผลิตในช่วงที่เรากำลังนอนหลับและเป็นการนอนหลับแบบสนิทในห้องที่มืดสนิทนั่นเอง 

นอกจากนี้ถ้าหากว่าเรานอนตั้งแต่ช่วงเวลา 22:00 น เป็นต้นไปและมีการตื่นเช้าในช่วง 6 โมงเช้ามันจะทำให้เรานั้นรู้สึกสดชื่นไปตลอดทั้งวัน

นั่นก็เพราะว่าช่วงที่เรานอนหลับนั้นร่างกายยังมีการผลิตสารเซโรโตนินซึ่งสารชนิดนี้จะเป็นสารที่กระตุ้นทำให้เราเกิดความสุขได้เมื่อใดก็ตามที่เรานอนดึกหรือว่าเรานอนน้อยนั้นบอกได้เลยว่าเราจะรู้สึกห่อเห*่ยวเราจะรู้สึกเบื่อหน่ายและรู้สึกอ่อนเพลียคล้ายกับคนเป็นโรคซึมเศร้าเลยทีเดียวและ

นอกจากนี้หากว่าเรานอนน้อยไม่ครบตามที่ร่างกายต้องการซึ่งก็คือ 6-8 ชั่วโมงมันจะทำให้ร่างกายของเรานั้นผลิตสารที่มีบทบาทสำคัญในการควบคุมความต้องการกินอาหารซึ่งก็คือฮอร์โมนเลปติน

โดย  hoiana casino   จะผลิตได้น้อยลงอีกด้วยดังนั้นคุณจะเห็นได้ว่าในช่วงที่เรานอนหลับนั้นร่างกายได้มีการผลิตสารต่างๆมากมายที่จะช่วยให้เรานั้นมีสุขภาพร่างกายที่ดีและยังสร้างภูมิคุ้มกันให้เราได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่ให้เรานั้นมีความอยากอาหารมากจนเกินไปและยังช่วยยับยั้งการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร  

ในช่วงที่เรากำลังนอนหลับนั้นร่างกายของเรายังคงทำงานอย่างหนักซึ่งการทำงานของ

ร่างกายนั้นมีความซับซ้อนเป็นอย่างมากและทำทุกสัดส่วนถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้ขยับเขยื้อนร่างกายตอนที่เรานอนหลับแต่ไม่ว่าจะเป็นสมองหรือการควบคุมการทำงานต่างๆในร่างกายยังคงเกิดขึ้นอย่างเช่นในเรื่องของหัวใจนั้นก็จะมีการผลิตฮอร์โมนขึ้นมา

เพื่อควบคุมเกี่ยวกับเรื่องของความดันโลหิตรวมถึงยังมีการผลิตสารในสมองที่จะทำให้ตื่นขึ้นมาแล้วสมองรู้สึกปลอดโปร่งนอกจากนี้ยังควบคุมการทำงานของลำไส้ตับและไตไม่ให้เกิดอาการท้องผูก

จะเห็นได้ว่าคนที่นอนน้อยหรือนอนไม่ค่อยหลับนั้นมักจะมีปัญหาเรื่องของสุขภาพลำไส้ตับและไตนอกจากนี้ยังมีใบหน้าที่หม่นหมองไม่สดใสไม่สดชื่นซึ่งสิ่งต่างๆที่กล่าวมาข้างต้นนั้นก็เกิดขึ้นมาจากพิษของการนอนน้อยหรือการนอนดึกนั่นเอง

ดังนั้นถ้าหากว่าเราไม่อยากแก่เร็วต้องการมีสุขภาพที่ดีการนอนเร็วตื่นเช้าจึงเป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างมากไม่ควรนอนเร็วเกินไปแล้วก็ไม่ควรที่จะนอนช้ามากจนเกินไปเพราะมันมีผลต่อการความแก่ของเราได้นั่นเอง

เทรนด์ความงามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของปี 2020

ในปีที่พวกเราหลายคนใช้เวลาอยู่ในบ้านหรือซ่อนอยู่หลังหน้ากาก วิธีคิดเกี่ยวกับความงามได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างลึกซึ้งยิ่งกว่าครั้งใดๆ ในความทรงจำที่มีชีวิต การระบาดใหญ่ทำให้เกิดความท้าทายใหม่ๆ มากมายที่คาดไม่ถึงสำหรับผู้ใส่ใจในภาพลักษณ์ ตั้งแต่ร้านทำผมที่ถูกปิดไปจนถึงการระบาดของ “หน้ากาก”

แต่ยังทำให้เกิดโซลูชันใหม่ๆ ที่ชาญฉลาด ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวแบบ DIY หรือวิดีโอสอนแต่งหน้าใน YouTube ในช่วงล็อกดาวน์ และใครจะคิดว่าเจลล้างมือจะกลายเป็นสิ่งสำคัญแห่งปี

  • ความยากลำบากที่เกิดขึ้นทั่วโลกได้คำนึงถึงความสำคัญหรือไม่เกี่ยวกับการกังวลเกี่ยวกับรูปลักษณ์ของเรา
  • (แม้ว่ายอดขายลิปสติกจะลดลงและการค้นหาการทำศัลยกรรมเสริมความงามเพิ่มขึ้น แต่ก็อาจขึ้นอยู่กับเมตริกที่คุณกำลังดูอยู่)
  • แต่ปี 2020 ยังได้ย้ำเตือนเราว่าจริงๆ แล้วความงามเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร: สนุกสนาน รู้สึกดีขึ้นกับตัวเอง และต้องขอบคุณโซเชียลมีเดียที่เชื่อมโยงถึงกันในกระบวนการนี้

ตั้งแต่ทรงผมสั้นไปจนถึงการแต่งหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ นี่คือเทรนด์ความงามที่โดดเด่นที่สุดของ CNN Style ในปีนี้ ในขณะที่ร้านตัดผม ร้านทำผม ร้านทำเล็บ และสถานเสริมความงามปิดตัวลงเนื่องจากการแพร่ระบาด พฤติกรรมการดูแลตัวเองของเราไม่เพียงแต่ผ่อนคลายเท่านั้น แต่ยังฉลาดมากขึ้นอีกด้วย

เราเริ่มต้นการทดลองกับสูตรมาส์กหน้า แว็กซ์ที่บ้าน ทรงผมแบบ DIY และการถักเปียโดยนำเอาหนังสือการรักษาตามธรรมชาติของปู่ย่าตายายของเรา

หรือที่น่าจะเป็นไปได้มากกว่านั้นคือบทแนะนำความงามใน YouTube หนึ่งในเทรนด์ความงามออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดของโรคระบาด “เล็บกักกัน” มีคนโพสต์ความพยายามสร้างสรรค์ในการทำเล็บ ตั้งแต่การทำเล็บสีรุ้ง (หรือที่เรียกว่าเล็บ Skittles)

ไปจนถึงการไล่ระดับสีพาสเทลด้วยปลายอัลมอนด์ที่มีรูปทรง การปิดเมืองยังเป็นการประกาศการกลับมาของทรงผมแบบ Buzzcut (ดูด้านบน) โดยผู้ชาย ผู้หญิง และคนดังต่างเอื้อมมือให้ปัตตาเลี่ยนโกนผม

ไม่จำเป็นต้องพูดว่าความพยายามมากมายเหล่านี้ (และบางครั้งก็ผลลัพธ์ที่แย่) ได้รับการบันทึกไว้ใน Twitter และ Instagram TikTok

ยังกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับผลิตภัณฑ์ความงามที่กำลังมาแรง ล้อเลียน บทช่วยสอน และเคล็ดลับต่างๆ ที่นั่น เราได้เห็นการกำเนิดของชาเลนจ์ #SockCurls ซึ่งเห็นผู้ใช้ทำลอนผมจากถุงเท้า นอกจากนี้ยังมี #Soapbrows มากมาย

ซึ่งเป็นแฮ็กแบบไวรัลที่ TikTokers จัดทรงคิ้วโดยใช้แปรงสปูลลีและสบู่ก้อนธรรมดา แต่ด้วยสถานประกอบการที่กลับมาเปิดใหม่ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก พฤติกรรม DIY ใหม่ ๆ ของเราจะยังคงอยู่หรือไม่

ดวงตาก็มี เมื่อหน้ากากเข้าสู่กระแสหลัก (ในสถานที่ส่วนใหญ่) วิธีแต่งหน้าที่เราใช้จึงเปลี่ยนไปอย่างมาก แนวโน้มสำคัญประการหนึ่ง?

ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น เช่น อายแชโดว์ ดินสอเขียนคิ้ว และมาสคาร่า ในการเรียนรู้วิธียิ้มด้วยดวงตาหรือ “ยิ้มแย้ม” เราหันไปใช้พาเลทท์สีจัดจ้าน อายแชโดว์สีม่วงสโมคกี้ กรีดอายไลเนอร์แบบลอยตัว คิ้วที่โดดเด่น ขนตาปลอม และไฮไลท์เตอร์ที่อบอุ่นที่สุดเพื่อแสดงออกถึงความเป็นตัวเราอย่างสร้างสรรค์ (หรือดูหรูหราแม้ในขณะนั้น) ไม่มีที่ไหนเลยที่จะไป)

ยอดขายเครื่องสำอางสำหรับดวงตาเพิ่มสูงขึ้นในช่วงที่มีการระบาดใหญ่ ในสหราชอาณาจักรเพียงแห่งเดียว ส่วนแบ่งของอายแชโดว์ในตลาดความงาม “ศักดิ์ศรี” เพิ่มขึ้นจาก 22% เป็น 25% ในช่วงล็อคดาวน์ ตามรายงานของนักวิเคราะห์การวิจัย NPD Group ในประเทศจีน ซึ่งเป็นจุดที่ไวรัสโจมตีครั้งแรกในช่วงปลายปี 2019

อาลีบาบา ยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซรายงานว่า คำว่า “การแต่งหน้าแบบสวมหน้ากาก” เริ่มได้รับความนิยมบนโซเชียลมีเดียในต้นปี 2020 หากไม่มีอะไรอย่างอื่น การเรียนรู้วิธีทำให้ขนตางอนเด้งช่วยให้เรามีสมาธิที่จำเป็นมาก

 

ได้รับการสนับสนุนโดย    ทัวร์คาสิโนเวียดนาม

จัดบ้านเก่าเสื่อมโทรมให้กลับมาสดใสโดยไม่ต้องรีโนเวท

จัดบ้านเก่าเสื่อมโทรมให้กลับมาสดใสโดยไม่ต้องรีโนเวท ด้วยมูลเหตุกลุ่มนี้ ก็เลยทำให้การรีโนเวทตกแต่งบ้านใหม่ให้กลับมางดงามและก็น่าอยู่แปลงเป็นเรื่องที่ยากแสนยากสำหรับคนอีกจำนวนไม่น้อย เนื่องจากว่าจำต้องใช้งบประมาณออกจะมากมาย บวกกับคนภายในเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีเวลาว่างสำหรับในการซ่อมบำรุงบ้านใหม่

แต่ว่าปัญหาทั้งหมดทั้งปวงนี้จะหมดไปด้วยความคิดดีๆของการเปลี่ยนบ้านเก่าที่ย่ำแย่ให้กลับมาน่าอยู่แบบไม่ต้องรีโนเวทที่พวกเราเอามาฝากกัน

ตัดแต่งต้นไม้ในสวน มุมสวนของบ้านที่เคยรกและไม่สวยสดงดงาม มีส่วนช่วยทำให้บ้านข้างหลังเก่ามีบรรยากาศย่ำแย่ เศร้าหมอง

แล้วก็ขาดชีวิตชีวา เสนอแนะให้ตกแต่งสวนใหม่โดยการตัดแต่งก้านไม้ใบต้นหญ้าให้สมควร ทดลองตรวจมองว่าข้างในสวนมีต้นไม้ประเภทไหนที่อยู่ในภาวะเสียจนกระทั่งไม่สามารถที่จะกลับมาเจริญวัยได้อย่างงดงาม ถ้าหากเจอต้นไม้พวกนั้นควรจะขุดรากถอนโคนออกมาจากมุมสวน

แล้วนำต้นไม้จำพวกใหม่ที่มีภาวะบริบูรณ์กว่ามาปลูกแทนที่ หรือบางทีอาจนำของตกแต่งสวนจำพวกตุ๊กตาปูนปั้นหรือน้ำพุตกแต่งสวนมาจัดวางแทนที่ต้นไม้เดิม ก็สามารถสร้างบรรยากาศข้างในสวนให้มองผิดตารวมทั้งมองสวยสดงดงามเยอะขึ้น

จัดเก็บบ้านให้เรียบร้อย เพิ่มเติมชีวิตชีวันให้มุมบ้าน เครื่องใช้ที่ไม่เข้าที่เข้าทางมีส่วนทำให้บรรยากาศในบ้านไม่น่าอยู่ โดยยิ่งไปกว่านั้นบ้านข้างหลังเก่าที่นับวันจะเต็มไปด้วยของใช้ที่อยู่ภายในบ้านมากเพิ่มขึ้นจำเป็นที่จะต้องมีการจัดระบบบ้านใหม่

โดยการสำรวจของใช้ที่อยู่ภายในบ้านว่ามีชิ้นใดที่อยู่ในภาวะดี หรือถ้าหากมีทรุดโทรมและไม่ต้องต่อการใช้แรงงานและจากนั้นก็เสนอแนะให้เก็บทิ้งออกมาจากพื้นที่ด้านในภาย

เมื่อเหลือแค่เครื่องใช้เท่าที่มีความจำเป็นรวมทั้งเพียงแต่ต่อการใช้สอยในบ้านแล้ว บางทีอาจทดลองนำเครื่องเรือนชิ้นเก่าและก็ข้าวของเครื่องใช้เดิมที่มีอยู่มาจัดวางตกแต่งบ้านใหม่

โดยการเปลี่ยนแปลงย้ายมุมเพื่อสร้างบรรยากาศที่ผิดแผกแตกต่าง บางทีอาจเสริมความมีชีวิตชีวาด้วยการเติมเต็มความยุติธรรมชาติจากแจกันดอกไม้ เพียงเท่านี้ก็สามารถเปลี่ยนบรรยากาศด้านในภายให้กลับมาสวย น่าอยู่ แล้วก็เบิกบานใจมากยิ่งกว่าเดิม

 

สนับสนุนโดย    เวียดนามมีคาสิโนไหม

อีกหนึ่งทางเลือกทำบ้าน ด้วยบ้านสำเร็จรูป

บ้านสำเร็จรูป ช่วยลดงบประมาณต่าง ๆ ในการก่อสร้างลงได้มาก เช่น พวกค่าวัสดุ ค่าจ้างผู้รับเหมาก่อสร้าง ตอบสนองในสิ่งที่ต้องการในแต่ละด้านตามที่กล่าวมาได้อย่างมีคุณภาพ บ้านประเภทนี้มีอยู่หลายแบบอย่างรวมทั้งแตกต่าง ซึ่งพบว่ามี 3 แบบสำคัญ ๆ ที่แยกออกตามระบบของการประกอบ อาทิเช่น

1.ระบบคอนกรีตสำเร็จรูป หรือเรียกอีกอย่างว่าบ้าน Precast Concrete System เป็นการนำองค์ประกอบคอนกรีตสำเร็จรูปแต่ละชิ้น อย่างเช่น พื้น ฝาผนัง เสา มาต่อเข้ารวมกันเป็นบ้าน ในเรื่องของหน้างาน โดยข้างในฝาผนังคอนกรีตสำเร็จรูปจะมีระบบระเบียบด้านการเดินสายไฟเฉพาะรวมทั้งระบบท่อจัดตั้งมาในตัว การหลอมคอนกรีตสำเร็จรูปถูกแบ่งได้เป็น 2 แบบดังต่อไปนี้

– หล่อเรียบร้อยแล้วมาจากโรงงาน (Plant Cast Units) และอีกแบบ คือ นำมาหล่อในพื้นที่เขตก่อสร้าง (Site Cast Units)

 

2.ระบบน็อคดาวน์ หรือบ้านน็อคดาวน์ที่เรารู้จักพบเห็นกันมานาน เป็นการนำเอาส่วนประกอบต่าง ๆ ของบ้าน ไปรวมเข้ากันพร้อมติดตั้งในพื้นที่หน้างาน นิยมใช้ส่วนประกอบเป็นแบบ เหล็ก ไม้ แล้วก็คอนกรีต สามารถสร้างได้ทั้งยังบ้านไซส์เล็กและก็ไซส์ใหญ่ แม้กระนั้นพวกเราจะพบเจอได้มากที่สุดเป็นการเอาตู้คอนเทรนเนอร์มาประยุกต์เปลี่ยนแปลงให้เป็นบ้านแบบน็อคดาวน์

บ้านประเภทนี้มีต้นทุนที่ต่ำกว่า บ้านสำเร็จรูป จำพวกอื่น ๆ มากมาย เนื่องด้วยจัดตั้งด้วยระบบขันน็อต เพื่อง่ายต่อกรรมวิธีประกอบหรือถอดแยกในคราวหลัง นอกเหนือจากนั้นยังสามารถจัดตั้งแบบถาวรได้ด้วยแนวทางเชื่อม

 

3.ระบบโมดูลาร์ อาจจะยังไม่คุ้นหูคุ้นตาสักเท่าไหร่ เป็นระบบการก่อสร้าง บ้านสำเร็จรูป ที่ปรับปรุงมาจากระบบทั้งยัง 2 ข้างบนที่กล่าวมา โดยนิยมใช้เพื่อสำหรับในการก่อสร้างบ้านระดับไฮคลาส มีการสร้างส่วนประกอบต่าง ๆ ด้านในโรงงาน ด้วยการควบคุมคุณภาพสำหรับการผลิตระดับสูง ใช้องค์ประกอบเป็นเหล็ก อุปกรณ์สำหรับทำองค์ประกอบแต่ละชิ้น จะเป็นสิ่งของมาตรฐานเดียวกันกับการก่อสร้างทั่ว ๆ ไป

ถ้าเกิดเป็นบ้านไซส์ใหญ่สามารถแบ่งย่อย Module ออกเป็นแต่ละส่วนได้ แล้วก็นำไปจัดตั้งที่หน้างานด้วยระบบน็อคดาวน์

 

ทั้งนี้บ้านสำเร็จรูปอาจจะสามารถเพิ่มพื้นที่ความเป็นส่วนตัวได้ด้วย ฉากกันห้อง เมื่อเลือกที่จะใช้แผงกันห้องสำหรับในการแบ่งห้องแล้วละก็ มันนับว่าเป็นตัวเลือกที่นิยมใช้กันอย่างล้นหลามมายาวนาน ไม่ว่าจะในห้องนอน หรือทำพื้นที่แปลงชุดเพื่อออมพื้นที่ ทั้งเพิ่มเสน่ห์แบบวินเทจให้กับห้องรับแขกแล้วก็ห้องอื่น ๆ ของคุณอีกด้วย เพื่อความไม่มีที่จัดตั้ง ควรจะใช้แผงกันแบบตั้งที่มีลวดลายหรูหราเป็นเอกลักษณ์

แม้คุณได้นำไอเดียกลุ่มนี้ไปใช้สำหรับการแบ่งพื้นที่ของข้างในบ้าน คุณจะรู้สึกพึงใจไปกับห้องรับแขกและก็พื้นที่ทานอาหาร ที่คุณแบ่งด้วยตัวคุณเองอย่างห้องนอน แล้วจะรู้สึกว่าบ้านเหล่านี้ดูดีขึ้นมามาก ๆ เลยทีเดียว

 

สนับสนุนโดย    hoiana เวียดนาม

ความสำเร็จของอุตสาหกรรมการพนัน

เมื่อปี 2022 ใกล้เข้ามา ฉันอยากจะใช้เวลาสักครู่เพื่อไตร่ตรองและเฉลิมฉลองสิ่งที่เราได้ทำร่วมกันสำหรับอุตสาหกรรมของเราในปีนี้ ปี 2565 จะเป็นปีที่แข็งแกร่งที่สุดปีหนึ่งในอุตสาหกรรมของเรา ด้วยรายได้รวมทางการค้าและรายได้จากชนเผ่าที่ก้าวไปจนทะลุ 100 พันล้านดอลลาร์ และแม้เศรษฐกิจจะมีปัญหาก็ตาม ก็ยังถือเป็นสถิติใหม่ประจำปี ตลอดทั้งปี AGA

มีความก้าวหน้าในการต่อยอดความสำเร็จของอุตสาหกรรม ได้แก่ วาดภาพเป้าหมายในตลาดที่ผิดกฎหมาย

เราสนับสนุนความพยายามนี้อีกครั้งโดยเรียกร้องให้ Merrick Garland อัยการสูงสุดของสหรัฐอเมริกาและกระทรวงยุติธรรมเพิ่มการบังคับใช้กับผู้ให้บริการที่ผิดกฎหมาย

เราเผยแพร่งานวิจัยที่ประเมินขนาดของการพนันที่ผิดกฎหมายในสหรัฐอเมริกา เปิดตัว StopIllegalGambling.org และว่าจ้างบริษัทต่างๆ เช่น Google เพื่อฉายแสงสปอตไลต์ในตลาดที่ผิดกฎหมายและผลักดันให้มีการดำเนินการ

การมองเห็นที่เพิ่มขึ้นของความเป็นผู้นำที่มีความรับผิดชอบของเกม AGA เปิดตัวรายงาน ESG ครั้งแรกของอุตสาหกรรม, ขยายสัปดาห์การศึกษาการเล่นเกมอย่างมีความรับผิดชอบเป็นหนึ่งเดือนเต็ม, เพิ่มพันธมิตรใหม่ใน Have A Game Plan.® Bet Responsibility.™, อัปเดตและเผยแพร่แนวปฏิบัติที่ดีที่สุดของอุตสาหกรรมเกี่ยวกับ AML, เผยแพร่ครั้งแรกของเรา

รายงานการต่อต้านการค้ามนุษย์ และเริ่มทำงานเพื่อกำหนดเกณฑ์มาตรฐานอุตสาหกรรมสำหรับความหลากหลายของกำลังแรงงาน

สร้างการอภิปรายสาธารณะผ่านการวิจัยต้นฉบับ เราเผยแพร่งานวิจัยมากกว่าสิบชิ้นและรายงานเป็นประจำเกี่ยวกับรายได้จากเกมเชิงพาณิชย์และแนวโน้มอุตสาหกรรมเกมของ CEO เพื่อส่งเสริมชื่อเสียงของอุตสาหกรรมและแจ้งให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลักทราบ

เดินหน้านโยบายที่เอื้ออำนวย ในระดับรัฐบาลกลาง เราจัดประชุมมากกว่า 140 ครั้งกับผู้กำหนดนโยบายและเจ้าหน้าที่เพื่อสร้างการสนับสนุนสำหรับการยกเลิกภาษีสรรพสามิตของรัฐบาลกลางการพนันกีฬา ผลักดันความคืบหน้าเกี่ยวกับเกณฑ์ภาษีสล็อต

และป้องกันกฎระเบียบค่าธรรมเนียมรีสอร์ท AGA ทำให้การมีส่วนร่วมของเราลึกซึ้งยิ่งขึ้นในระดับรัฐโดยการประชุมหน่วยงานกำกับดูแลและทำงานร่วมกับผู้นำของรัฐในลำดับความสำคัญของอุตสาหกรรมที่สำคัญ จัดงาน G2E และ G2E Asia ที่เต็มไปด้วยพลังและสร้างแรงบันดาลใจ

เราต้อนรับมืออาชีพด้านเกมเกือบ 25,000 ราย ผู้แสดงสินค้า 350 ราย และซีอีโอชั้นนำด้านเกมหลายคนมาร่วมงาน G2E ที่ประสบความสำเร็จในลาสเวกัส และจัดงาน G2E Asia สำหรับรุ่นพิเศษในสิงคโปร์

เมื่อเรามองไปข้างหน้าถึงปี 2023 เราจะยังคงบอกเล่าเรื่องราวที่ดีของเกมและยกระดับอุตสาหกรรมและลำดับความสำคัญของสมาคมต่อไป ฉันมั่นใจว่าเราจะสร้างปี 2023

ให้เป็นปีที่ยอดเยี่ยมอีกปีสำหรับการเล่นเกม ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งที่คุณทำเพื่อให้ปี 2022 ประสบความสำเร็จและสำหรับความร่วมมือที่ต่อเนื่องของคุณ และมีการขออวยให้กับผู้เล่นด้วย

 

สนับสนุนโดย    การป้องกันหูตึง

โรค RSV หรือเชื้อไวรัส Respiratory Syncytial Virus

 โรค RSV หมายถึง Respiratory Syncytial Virus ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่สร้างอาการทางเดินหายใจในเด็กและผู้ใหญ่ โรคนี้มักพบได้ในเด็กที่อายุต่ำกว่า 2 ปีโดยเฉพาะในเด็กที่อายุต่ำกว่า 6 เดือน โรค RSV สามารถทำให้เกิดอาการเจ็บคอ ไอ น้ำมูก เสียงหาย หรือปอดอักเสบได้ ในบางกรณีรุนแรง โรคนี้อาจทำให้เกิดปัญหาหายใจรุนแรงและต้องรักษาในโรงพยาบาลได้

การป้องกันโรค RSV สำคัญอย่างยิ่งในเด็กที่มีความเสี่ยงสูง เช่น เด็กแรกเกิดหรือมีปัญหาทางสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับหายใจ หรือเด็กที่เกิดในช่วงฤดูหนาว

การป้องกันที่สำคัญที่สุดคือการล้างมือบ่อยๆ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับคนที่ป่วยและหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีคนเยอะๆในช่วงเวลาที่เด็กมีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อไวรัสนี้ เช่น โรงเรียนหรือสถานที่คนเยอะๆ

 

การป้องกันโรค RSV สำคัญอย่างยิ่งในเด็กที่มีความเสี่ยงสูง โดยมีวิธีการป้องกันหลายรูปแบบดังนี้

1.ล้างมืออย่างสม่ำเสมอ: ล้างมือให้สะอาดโดยใช้สบู่และน้ำตลอดเวลา โดยเฉพาะหลังจากการสัมผัสสิ่งของที่มีโอกาสถูกปนเปื้อนไวรัส เช่น เด็กที่ป่วย หรืออุปกรณ์เล่นของเด็ก

2.หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับคนป่วย: หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับคนที่เป็นโรค RSV หรือโรคทางเดินหายใจอื่นๆ โดยเฉพาะในเด็กที่มีความเสี่ยงสูง หากมีการเยี่ยมชมเด็กที่ป่วยจาก RSV ควรสวมหน้ากากอนามัยและรักษาความระมัดระวังในการสัมผัส

3.การควบคุมสิ่งแวดล้อม: ควบคุมสิ่งแวดล้อมให้สะอาดโดยทำความสะอาดบ้านและสถานที่ที่มีเด็กอาศัยอยู่ โดยเฉพาะพื้นที่ที่สัมผัสบ่อยๆ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ เล่นของ เป็นต้น

4.การวัคซีน: หากมีวัคซีนป้องกัน RSV ที่มีอยู่ ควรพิจารณาให้เด็กได้รับวัคซีนตามที่แพทย์แนะนำ แต่ในปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกัน RSV ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย

5.การเลี้ยงดูเด็ก: รักษาความสะอาดของเด็ก ส่วนตัวและสิ่งของที่ใช้งานร่วมกับเด็ก และให้เด็กหมั่นได้รับอาหารที่เหมาะสมและพักผ่อนที่เพียงพอ

6.การป้องกันฤดูหนาว: ในฤดูหนาวหรือในช่วงที่มีการระบาดของโรค RSV มีความสำคัญที่จะหลีกเลี่ยงการนำเด็กไปสถานที่ที่มีคนเยอะๆ หรือการจัดกิจกรรมในที่แออัด และให้เด็กสวมเสื้อผ้าที่เหมาะสมเมื่ออากาศเย็นลง

นอกจากข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาที่ได้ระบุไว้ข้างต้นแล้ว มีสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับโรค Respiratory Syncytial Virus (RSV) อีกหลายประการดังนี้

1.กลไกการติดเชื้อ: RSV มักแพร่กระจายผ่านทางการสัมผัสตรงโดยการสัมผัสกับละอองที่มีเชื้อไวรัสจากการไอ จาม หรือการสัมผัสกับพื้นผิวที่ปนเปื้อนไวรัส โดยเด็กและผู้สูงอายุมักเป็นกลุ่มเสี่ยงที่สุดในการติดเชื้อ RSV

2.การแพร่ระบาด: โรค RSV มักแพร่ระบาดในฤดูหนาวและฤดูฝน โดยมักมีการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วยในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงกันยายนในภูมิภาคร้อน

3.อาการ: อาการของโรค RSV ทั่วไปมีความหลากหลายตั้งแต่อาการเด่นชัดของหายใจเจ็บคอ ไอ น้ำมูก เป็นต้น ในกรณีที่รุนแรงกว่าอาจมีไข้สูง ไอรุนแรง หายใจเร็วและลึก หรือมีอาการหายใจเสียและต้องรับการรักษาในโรงพยาบาล

4.ภาวะแทรกซ้อน: โรค RSV อาจเป็นสาเหตุของภาวะแทรกซ้อนทางระบบทางเดินหายใจเช่น ปอดอักเสบ หรือทางเดินหายใจส่วนล่างที่มีความรุนแรง

5.การป้องกัน: การล้างมืออย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับคนที่ป่วย หรือใช้หน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ใกล้คนที่ป่วย และรักษาความสะอาดของสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถช่วยลดโอกาสในการติดเชื้อ RSV ได้

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    Hoiana

ออกกำลังกายหนักเกินไป ส่งผลเสียหรือส่งผลดีแก่ร่างกาย

 

การออกกำลังกายหนักเกินไปอาจมีผลเสียต่อร่างกายได้ โดยเฉพาะถ้าไม่มีการควบคุมและการฟื้นฟูที่เหมาะสม ดังนี้

1.การบาดเจ็บ: การออกกำลังกายที่หนักเกินไปอาจเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ เช่น ฉีดข้อ, พลังงานรวมที่เข้ามาในร่างกายมากเกินไปจนเกิดการบาดเจ็บเร่งด่วน เช่น การเจ็บข้อ, ผลกระทบที่รุนแรง, หรือสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ

2.การเมื่อยล้า: การออกกำลังกายหนักเกินไปอาจทำให้ร่างกายเมื่อยล้าอย่างรุนแรง เนื่องจากการฝึกซ้อมที่หนักเกินมากเกินไป

3.การทำลายกล้ามเนื้อ: การฝึกซ้อมที่หนักเกินอาจทำให้กล้ามเนื้อถูกทำลาย โดยเฉพาะในกรณีที่ไม่มีการฟื้นฟูและการพักผ่อนเพียงพอ

4.การเสี่ยงต่อโรค: การออกกำลังกายที่หนักเกินอาจทำให้ร่างกายมีความเครียดสูงขึ้น ซึ่งส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอลง และเสี่ยงต่อการเป็นโรค

5.การบาดเจ็บที่เกิดในระยะยาว: การออกกำลังกายที่หนักเกินอาจเสี่ยงต่อการบาดเจ็บที่เกิดในระยะยาว เช่น การสึกหรืออาการอักเสบในข้อ

อย่างไรก็ตาม, การออกกำลังกายที่เหมาะสมและควบคุมอย่างถูกต้อง สามารถมีประโยชน์ต่อร่างกายได้อย่างมาก เช่น

1.เสริมสร้างกล้ามเนื้อและภาพร่าง: การฝึกซ้อมที่มีความหนักเพียงพอสามารถช่วยในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อและภาพร่างของร่างกายได้

2.สุขภาพหัวใจ: การออกกำลังกายเป็นประจำสามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบหัวใจและทรวงอก

3.สุขภาพจิต: การออกกำลังกายสามารถช่วยในการลดความเครียดและซึมเศร้าได้ และเสริมสร้างความเป็นบวกในชีวิต

4.เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน: การออกกำลังกายที่เหมาะสมสามารถช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เพื่อต่อต้านการติดเชื้อและโรคต่าง ๆ

5.เพิ่มพลังงาน: การออกกำลังกายที่เหมาะสมสามารถช่วยเพิ่มพลังงานและสมรรถภาพทางกายของร่างกายให้ดีขึ้น

ดังนั้น ควรเลือกที่จะออกกำลังกายอย่างเหมาะสม โดยคำแนะนำคือ ควรปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ และปฏิบัติตามคำแนะนำและข้อกำหนดการออกกำลังกายที่เหมาะสม

กลุ่มคนประเภทไหนที่ไม่ควรออกกำลังกายหนักๆ

มีกลุ่มคนบางกลุ่มที่อาจไม่ควรออกกำลังกายหนักๆ หรืออาจต้องปรับปรุงการออกกำลังกายให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายของตนเอง

1.ผู้มีภาวะบาดเจ็บหรือโรคเรื้อรัง: ผู้ที่มีประวัติการบาดเจ็บหรือโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ, โรคข้อเข่าเสื่อม, หรือโรคเกี่ยวกับกระดูกและกล้ามเนื้อ อาจต้องปรับปรุงรูปแบบและความหนักของการออกกำลังกายให้เหมาะสมกับสภาพร่างกาย

2.ผู้มีสุขภาพจิตที่อ่อนแอ: บางครั้งการออกกำลังกายหนักๆ อาจทำให้ผู้ที่มีสุขภาพจิตที่อ่อนแอรู้สึกเครียดหรือกดดันเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจทำให้มีผลกระทบต่อสุขภาพจิตได้

3.ผู้สูงอายุ: ผู้สูงอายุมักมีร่างกายที่อ่อนแอและมีความสามารถในการฟื้นฟูหรือปรับตัวต่อการออกกำลังกายลดลง ดังนั้นควรเลือกท่าทางออกกำลังกายที่เป็นมิตรและไม่หนักมากเกินไป

4.ผู้มีภาวะอ้วนหรือเสี่ยงต่อการอ้วน: การออกกำลังกายที่หนักเกินไปอาจเสี่ยงต่อการบาดเจ็บและการเสี่ยงต่อโรค เช่น การฝึกซ้อมที่หนักเกินไปอาจทำให้ร่างกายมีความเครียดสูงขึ้นและเสี่ยงต่อการบาดเจ็บในระยะยาว

5.ผู้ที่เป็นหญิงตั้งครรภ์: การออกกำลังกายที่หนักเกินไปในช่วงการตั้งครรภ์อาจมีผลกระทบต่อการพัฒนาของทารก และเสี่ยงต่อการบาดเจ็บของแม่และทารกในครรภ์

 สำหรับกลุ่มคนเหล่านี้ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพก่อนการออกกำลังกาย เพื่อปรับปรุงแผนการออกกำลังกายให้เหมาะสมและปลอดภัยต่อสุขภาพของตนเอง

 

สนับสนุนโดย   เครื่องช่วยฟัง มีไว้ทำอะไร

ทำชั้นเก็บของจัดระเบียบบ้าน และสังเกตต้นไม้ในบ้านอาจเป็นโรค

บ้านควรดูแลให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ของไม่ควรระเกะระกะ บางท่านอาจจะเลือกการซื้อชั้นวางของ โดยแนวทางการทำชั้นเก็บของ ได้แก่

– การจัดทำชั้นเก็บของจำเป็นจะต้องคิดถึงพื้นที่การใช้สอยความแข็งแรงและก็ความงาม ตลอดจนความคงเดิมเพื่อสามารถใช้งานได้สมผลดีรวมทั้งสารพัดประโยชน์ อุปกรณ์ที่ประยุกต์ใช้เป็นชั้นเก็บของส่วนใหญ่จะใช้ไม้อัดหรือไม้ธรรมชาติขนาดของไม้หรืออุปกรณ์ที่เอามาทำชั้นเก็บของ จะพินิจจากขนาดของชั้นและก็พื้นที่การรับน้ำหนัก ถ้าหากเป็นชั้นขนาดใหญ่ก็จำเป็นต้องใช้ไม้ที่มีขนาดหนาแล้วก็กว้างพอควร

– การต่อตั้งชั้นที่เอาไว้สำหรับเพื่อวางของกับฝาผนังต้องนึกถึงความแข็งแรง หากเป็นฝาผนังที่ไม่ค่อยแข็งแรงจำเป็นจะต้องทำส่วนที่รับชั้นสำหรับเพื่อวางของให้มั่นคงส่วนฝาผนังที่เป็นคอนกรีตจะมีความแข็งแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ บางครั้งอาจจะทำเป็นบ่ารับชั้นได้โดยตรงดังนี้ขึ้นกับขนาดของชั้นและก็การรับน้ำหนักข้าวของที่จะวางด้วย

– ขั้นตอนการจัดตั้งข้างบนบ่ายึดติดกับฝาผนัง สร้างขึ้นโดยไม้ หรือเหล็กยึดติดกับฝาผนัง โดยมากแบบนี้จะติดตายตัว ยกเว้นจะติดสกรูเพื่อเลื่อนขึ้นลง โดยมากแบบจะติดตายตัว เว้นแต่ว่าจะติดสกรูเพื่อเลื่อนขึ้นลง ส่วนบ่าที่รับนี้บางทีอาจเป็นไม้ หรือเหล็กก็ได้

– การจัดตั้งข้างบนเป็นการทำแผนการเพื่อวางชั้นมาก่อน แล้วจึงวางชั้นที่โครงซึ่งจำนวนมากเป็นเหล็ก ชั้นอย่างนี้ไม่ต้องยึดติดกับฝาผนัง เพราะว่าโครงดังที่กล่าวถึงมาแล้วสามารถตั้งบนขาของตนเองได้ รวมทั้งสามารถรับน้ำหนักที่จะวางได้มากด้วย

– การต่อตั้งชั้นโดยใช้ที่วางแขนรับน้ำหนัก ทำเป็นโดยติดที่วางแขนบนฝาผนัง รวมทั้งวางข้างบนเท้าบนแขน เหมาะกับการต่อตั้งตามฝาผนังเรียบ รับ น้ำหนักได้ไม่มากสักเท่าไรนัก ส่วนใหญ่จะวางข้าวของที่มีน้ำหนักค่อย แล้วก็ขนาดไม่ใหญ่นัก ยกตัวอย่างเช่น ของฝาก หรือของโชว์ ฯลฯ

และบ้านไหนที่กำลังอินกับการปลูกต้นไม้ ซื้อต้นไม้มาเลี้ยงในบ้าน อาจจะพบกับโรคต้นไม้เหล่านี้

– โรคราเม็ดผักกาด (Southern Blight) เพราะเชื้อรา Sclerotium rolfsii ที่มักติดมาพร้อมกับกาบมะพร้าวสับ และดินปลูกที่ค่อนข้างระบายน้ำได้ไม่ดีทำให้เชื้อราเติบโตได้อย่างเร็วรวมทั้งทำลายต้นไม้ของพวกเราได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ลักษณะของโรคนี้ก็คือ จะเจอเหล่าเชื้อราเป็นเม็ดเล็ก ๆ สีขาวปกคลุมรอบ ๆ ที่มีการติดเชื้อโรค นอกเหนือจากนี้ยังเจออาการโคนต้นไม้กลายเป็นสีน้ำตาล ใบเริ่มเฉาร่วมด้วย

– โรคใบจุด (Leaf Spot) เป็นอีกหนึ่งยอดนิยมที่มักกำเนิดกับต้นไม้ที่ปลูกเอาไว้ภายในบ้าน เนื่องมาจากข้างในบ้านมีการถ่ายเทอากาศที่ไม่ค่อยสบายพอ ๆ กับด้านนอกบ้าน อับลม ทำให้ความชื้นที่อยู่ภายในอากาศ เป็นต้นว่า เชื้อรา Colletotrichum sp. พุ่งตรงมารังแกต้นไม้ของพวกเรา โดยอาการที่เจอเป็นจุดสีเหลืองที่เป็นวงกว้างบนใบรวมทั้งกึ่งกลางจะเป็นสีน้ำตาลขนาดใหญ่ รวมทั้งเมื่ออากาศร้อนอบอ้าวเมื่อไรจะยิ่งทำให้โรครุกลุกลามไป ๆ มา ๆ กว่าเดิม

 

ได้รับการสนับสนุนโดย    Inspire คาสิโนเกาหลี

อันตรายจากน้ำยาล้างห้องน้ำที่เราไม่ควรมองข้าม

 สำหรับน้ำยาล้างห้องน้ำถือว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนมีติดกันทุกบ้าน เพราะว่าเรานั้นจะต้องใช้ทำความสะอาดห้องน้ำของเราเป็นประจำ เพราะน้ำยาล้างห้องน้ำช่วยให้ฆ่าเชื้อโรคในห้องน้ำและทำให้สุขภัณฑ์ที่อยู่ในห้องน้ำของเรานั้นสะอาด แต่ถ้าคุณเลือกน้ำยาล้างห้องน้ำผิดประเภทอาจส่งผลระยะยาวแก่ตัวคุณเองโดยที่คุณไม่รู้ตัว

โดยคุณไม่รู้เลยว่า ตัวคุณนั้นจะเจอกับอะไรเมื่อคุณใช้น้ำยาล้างห้องน้ำบ่อยครั้ง ดังนั้นเราต้องรู้จักวิธีป้องกันและแก้ไขเพราะถ้าผมเจอสารพิษหรือสารเคมีที่ปะปนมาในน้ำยาล้างห้องน้ำแล้วคุณจะได้ป้องกันได้ถูกวิธี

 

บางคนก็ยังไม่รู้ว่าน้ำยาล้างห้องน้ำ อันตรายอยู่ไม่ใช่น้อย แต่ถ้าหากคุณไปสัมผัสมันคุณอาจจะโดนสารเคมีเรานั้นทำร้ายร่างกายหรือผิวหนังของคุณ ในน้ำยาล้างห้องน้ำนั้นมีความรุนแรงของสารบางชนิด ซึ่งก่อให้เกิดอันตรายต่อระบบต่างๆภายในร่างกายของคุณได้ ดังนั้นเรามาดูวิธีแก้ไขให้ถูกจุดถ้าหากคุณโดนน้ำยาเรานั้น

 

1.ส่งผลอันตรายต่อผิวหนังของคุณ

ถ้าหากคุณนั้นโดนน้ำยาล้างห้องน้ำโดยตรงโดยที่คุณไม่ได้ตั้งใจมันจะส่งผลทำให้คุณแพ้ยกตัวอย่างเช่นจะมีอาการคัน เป็นผื่นแดง ผิวหนังลอก หรือผิวแห้งก้านได้เป็นต้น สำหรับน้ำยาล้างห้องน้ำแล้วนั้นถือได้ว่าเป็นน้ำยาที่มีความเข้มข้นสูงมาก 

ดังนั้นถ้าหาก  เครื่องช่วยฟัง  คุณแพ้น้ำยาอย่างรุนแรงหรือโดนน้ำยาล้างห้องน้ำ ที่มีส่วนผสมชนิดรุนแรงคุณอาจจะติดเชื้อเป็นแผลพุพองได้ดังนั้นถ้าหากคุณโดนน้ำยาล้างพื้นเข้าจังๆ ให้คุณรีบไปปรึกษาแพทย์โดยด่วน

 

  1. ก่อให้เกิดอันตรายต่อดวงตาของคุณได้

ใครว่าน้ำยาล้างห้องน้ำไม่ได้รุนแรงอย่างที่เราคิดเชื่อไหมว่าน้ำยาล้างห้องน้ำนั้นจะมีสารเคมีบางตัวที่ทำการละเหยขึ้นมาปะปนอยู่กับอากาศของเราและเมื่อเราทำการล้างห้องน้ำและสูดดมอากาศเรานั้นเข้าไปอาจจะก่อให้เกิดอันตรายแก่เราแต่ว่าถ้าความรุนแรงมันเข้าตาของเราได้คุณอาจจะเกิดอาการแสบร้อนที่ดวงตาของคุณอาจส่งผลทำให้น้ำตาไหลหรือมองไม่ชัดซึ่งถ้าหากคุณรู้สึกเช่นนั้นให้คุณรีบล้างตาโดยด่วนห้ามขยี้ตาเด็ดขาดและควรไปพบแพทย์ในทันที

 

  1. มีความรุนแรงต่อระบบหายใจและทางเดินอาหารของคุณได้

แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยถ้าหากคุณใช้น้ำยาล้างพื้นที่ไม่ดี เพราะแน่นอนว่ามันจะละเหยขึ้นไปในอากาศนั้นจะทำให้คุณสูดดมเข้าไปซึ่งอาจจะทำให้คุณเวียนหัวถึงขั้นอาเจียนได้หรืออาจจะส่งผลทำลายเนื้อเยื่อระบบทางเดินอาหารของคนอย่างรุนแรงได้เช่นกันถ้าหากคุณมีอาการน้ำมูกไหลไอหรือจามหรือว่าหายใจไม่ออกให้คุณรีบไปพบแพทย์โดยด่วนไม่ควรรอช้าเพราะอาจจะส่งผลทำให้คุณหมดสติได้