กลายเป็นประเด็นให้พูดถึงกันอยู่ในตอนนี้เป็นวงกว้างเกี่ยวกับประเด็นการเสียชีวิตของนางสาวมยุรีหรือน้องหลิวหญิงสาววัย 19 ปีที่หายตัวออกจากบ้านนานถึง 8 ปีกว่าพ่อแม่จะรู้ว่าลูกสาวของตนเองนั้นถูกฆ่าเสียชีวิตแล้ว   โดยเบื้องต้นนั้นทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตรวจสอบและยืนยันได้ว่าเมื่อ 8 ปีที่แล้วที่มีคนพบในป่าอ้อยคือน้องหลิวจริงๆโดยมีการนำตัวอย่าง DNA จากพ่อแม่ของน้องหลิวไปทำการตรวจสอบหา DNA กับโครงกระดูกของน้องหลิวและได้รับการยืนยันออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

         อย่างไรก็ตามคนในครอบครัวของน้องหลิวแม้แต่ประชาชนทั่วไปที่ได้ติดตามข่าวสารการพบศพของน้องหลิวนั้นต่างก็พากันสงสัยว่าใครกันแน่ที่เป็นคนฆ่าน้องหลิวและสามารถปิดบังอำพรางคดีได้นานถึง 8 ปีซึ่งทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็พยายามหาข้อมูลและหลักฐานต่างๆเพื่อจะโยงไปถึงคนร้ายแต่ก็อาจจะต้องใช้ระยะเวลาค่อนข้างนานเนื่องจากว่าระยะเวลาผ่านไปนานถึง 8 ปีแล้วหลักฐานต่างๆจึงค่อนข้างหายาก

        แต่เมื่อมีการสอบถามไปยังญาติพี่น้องของน้องหลิวหลายคนมีการตั้งข้อสงสัยถึงอดีตคนรักของน้องหลิวซึ่งเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนโดยญาติพี่น้องของน้องยืนยันว่าน้องหลิวนั้นคบกับใครคนหนึ่งแต่ก็มักมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกันเป็นประจำเนื่องจากว่าชายคนดังกล่าวนั้นมีอารมณ์หึงหวงที่ค่อนข้างรุนแรงซึ่งน้องหมิวเคยเล่าให้กับญาติพี่น้องฟังว่าเคยปลูกชายคนนึงเก่าใช้ด้ามปืนตบที่ใบหน้าเพราะเกิดจากความหึงหวงทั้งนี้ญาติพี่น้องต่างก็พากันเชื่อว่าน่าจะเป็นผู้อำนวยการคนนี้ที่ก่อเหตุฆ่าน้องหลิว

        แต่ในขณะเดียวกันทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ยังไม่ได้ปักใจเชื่ออะไรมากนักซึ่งได้มีการตั้งข้อสันนิษฐานเอาไว้ทั้งหมด 3 หัวข้อด้วยกันโดยหัวข้อแรกนั้นเชื่อว่าอาจจะมีการปลูกคนใกล้ชิดทำร้ายฆ่าตายเพราะเหตุผลทะเลาะกันเป็นการส่วนตัวหรืออาจจะถูกคนร้ายลวงมาฆ่าชิงทรัพย์และอีกประเด็นหนึ่งก็คือไม่พ้นเกี่ยวกับเรื่องของชู้สาวนั้นเอง

       ซึ่งในขณะนี้ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พยายามหาพยานหลักฐานและพยายามสอบถามกับคนที่เคยใกล้ชิดสนิทสนมกับน้องหรือมาก่อนเพื่อที่จะได้หาสาเหตุของการฆาตกรรมในครั้งนี้และหนึ่งในผู้ต้องสงสัยที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและชาวบ้านต่างเชื่อกันก็คือแฟนหนุ่มของน้องหลิวที่เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนซึ่งในขณะนี้หลังจากที่มีข่าวพบศพน้องหลิวเผยแพร่ออกมา  

นับตั้งแต่นั้นทางผู้อำนวยการโรงเรียนก็ได้มีการลาหยุดจากหน่วยงานราชการและไม่มีใครสามารถติดต่อผู้อำนวยการคนดังกล่าวได้อีกเลย ซึ่งถ้าหากว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามตัวผู้อำนวยการคนดังกล่าวมาสอบสวนได้เชื่อว่าคดีนี้ก็น่าจะพี่ขายได้ในที่สุดนั่นเอง 

 

สนับสนุนโดย.  เว็บหวยออนไลน์อันดับ1